นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัส โรโบติกส์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ROBOTRMF) และกองทุนเปิดสมอล แอนด์ มิดแคป อิควิตี้ หุ้นระยะยาว (ASP-SMELTF) โดยมีกำหนดเสนอขายครั้งแรก 1-17 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่สนใจการลงทุนในนโยบายที่ใกล้เคียงกันกองทุน ASP-ROBOT และกองทุน ASP-SME ที่เสนอขายไปก่อนหน้านี้และได้รับการตอบรับอย่างสูงจากผู้ลงทุน
กองทุน ASP-ROBOTRMF เป็นกองทุนตราสารทุน ระดับความเสี่ยง 6 มีนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกันกับกองทุน ASP-ROBOT โดยจะลงทุนส่วนใหญ่ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในต่างประเทศ คือ กองทุน AXA World Funds Framlington Robotech ภายใต้การบริหารจัดการของ AXA Investment Managers ซึ่งมุ่งลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Robotics & A.I. ทั่วโลก ครอบคลุมเทรนด์หลักที่เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มจักรกลอัตโนมัติ กลุ่มคมนาคมขนส่ง กลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข และกลุ่มเทคโนโลยีเชิงบูรณาการ ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ยังมีศักยภาพในการขยายตัวสูงและจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีได้
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในกองทุน ETF หรือหุ้นในกลุ่มบริษัททั่วโลกที่เป็นผู้พัฒนาและนำเอา Robotics และ A.I. มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
สำหรับกองทุน ASP-SMELTF มีนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกันกับกองทุน ASP-SME ที่ได้เสนอขายไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ 2 สิงหาคม 2560 ผลตอบแทนของกองทุนอยู่ที่ 12.82% ทิ้งห่างผลตอบแทนของ SETTRI ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดซึ่งให้ผลตอบแทนเพียง 6.86% (ที่มา: www.assetfund.co.th ณ 29 กันยายน 2560)
ทั้งนี้ กองทุน ASP-SMELTF จะเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ระดับความเสี่ยง 6 มีจุดเด่นที่กระบวนการวิเคราะห์และคัดสรรหุ้นแบบเจาะลึกโดยมุ่งเน้นหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง มีโมเดลในการบริหารธุรกิจที่ชัดเจน ฐานลูก่าค้าขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงมีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์แข็งแกร่งและให้ความสำคัญกับ Customer Engagement
“ธีมการลงทุนใน Robotics & AI ถือเป็น Mega Trend ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูงขึ้นอีกในอนาคต และเป็นทางเลือกสำหรับการกระจายความเสี่ยง รวมถึงเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงตามแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Robotics & AI ดังจะเห็นได้จากประมาณการการเติบโตของตลาด Robotics และ AI ทั่วโลกนับจากปัจจุบันถึงปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตโดยเฉลี่ย 10-15% ต่อปี เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากช่วงปี 2548-2556 ที่มีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 5% ต่อปี (ที่มา: Boston Consulting Group อ้างอิงใน AXA Investment Managers Presentation, May 2017) จึงเป็นโอกาสที่ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงได้จะเลือกเข้าลงทุนพร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีกับกองทุน ASP-ROBOTRMF ในช่วงนี้ซึ่งถือเป็นการเติบโตระยะเริ่มต้น หรือ Early Stage เพื่อสะสมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมการเติบโตของ Robotics & AI
ส่วนกองทุน ASP-SMELTF บลจ. แอสเซท พลัส มองว่า หุ้น Small-Mid Cap ในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล ธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากความพยายามลดหนี้นอกระบบของภาครัฐ ตลอดจนกิจการที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวจีนและการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีความน่าสนใจสูง และแม้หุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางอาจมีความผันผวนมากกว่าการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ทั่วไป แต่เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสรับมีผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนในกองทุน LTF ซึ่งพร้อมรับความผันผวนในหุ้นและพร้อมลงทุนในระยะยาวได้" นายรัชต์ กล่าว