กลุ่มโรงกลั่นปรับลงทั่วหน้า หลังค่าการกลั่นเริ่มอ่อนตัวในต.ค. โบรกฯเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 1, 2017 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่มโรงกลั่นอ่อนตัวทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 10.44 น. หุ้น ESSO ลบ 3.92% มาอยู่ที่ 14.70 บาท ลดลง 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 482.97 ล้านบาท

หุ้น SPRC ลบ 3.45% มาอยู่ที่ 16.80 บาท ลดลง 0.60 บาท 330.50 ล้านบาท

หุ้น BCP ลบ 1.20% มาอยู่ที่ 41.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 98.24 ล้านบาท

หุ้น TOP ลบ 0.49% มาอยู่ที่ 101.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 132.92 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/60 กลุ่มโรงกลั่นคาดปรับตัวขึ้นเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามค่าการกลั่นเริ่มอ่อนตัวในเดือน ต.ค. สวนทางกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น 9-11% จึงแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังหุ้นกลุ่มนี้ จาก Upside ของค่าการกลั่นในปี 2561 ที่เริ่มจำกัด

ขณะที่ค่าการกลั่นตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 4/60 เริ่มอ่อนตัวลง ขณะที่ Upside จะมาจากอุปสงค์การใช้น้ำมันที่เติบโต ซึ่งกลุ่มน้ำมันขั้นต้นมีความน่าสนใจมากกว่า โดยยังคงน้ำหนักกลุ่มพลังงาน (โรงกลั่น) เท่ากับตลาด

ทั้งนี้ จากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้น และกำไรจำนวนมาจากสต็อกน้ำมัน ประเมินบมจ.สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง (SPRC) และบมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่มีสัดส่วนกำไรจากโรงกลั่นสูงจะมีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ฟื้นตัวเด่นกว่ากลุ่ม คาด SPRC จะรายงานกำไรสุทธิ 3,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431% จากไตรมาสก่อน TOP จะรายงานกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 156% จากไตรมาสก่อน เป็น 8,303 ล้านบาท คาดกำไรสุทธิบมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) จะเพิ่มขึ้น 162% จากไตรมาสก่อน เป็น 3,218 ล้านบาท ส่วนบมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) คาดจะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 เพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่มมาที่ 1,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ดี ได้ปรับคำแนะนำ SPRC ลงเป็น Take Profit และคงคำแนะนำ Take Profit สำหรับ TOP จากสัดส่วนกำไรโรงกลั่นที่มีกว่ากลุ่มทำให้ความเสี่ยงจากการลดลงของค่าการกลั่นมีมากกว่า


แท็ก ESSO  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ