บมจ.แสนสิริ (SIRI) เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนบราบและคอนโดมืเนียมรวม 10 โครงการ ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ มูลค่าโครงการรวมราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันให้ยอดขายทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายราว 4 หมื่นล้านบาท หลังจากช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ทำยอดขายได้แล้ว 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่มั่นใจว่ารายได้ทั้งปีนี้จะเข้าเป้า 3.4 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้มียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/60 ราว 7 พันล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทมั่งใจยอดขายในปีนี้ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะเห็นการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น เป็นผลมาจากปัจจัยการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลต่อความมั่นใจที่กลับมาดีขึ้น ซึ่งความมั่นใจที่กลับมาดีขึ้นนั้นมองว่าเป็นผลบวกต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการจัดงาน Sansiri Life Comes Home 2017 ในช่วงวันที่ 24-26 พ.ย.นี้ ที่สยามพารากอน เพื่อเป็นการมอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี และเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีให้คึกคักมากขึ้น ประกอบกับ บริษัทยังมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติเข้ามาหนุนอีก ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายลูกค้าต่างชาติในปีนี้อยู่ที่ 8 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เหลืออีก 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ โครงกา และแนวราบ 5 โครงการ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งการเปิดโครงการใหม่ดังกล่าวจะทำใหิบริษัทยอดการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4.47 หมื่นล้านบาท
ขณะที่รายได้ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งการโอนเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามียอดโอนแล้ว 2.3-2.4 หมื่นล้านบาท จากเป้า 3 หมื่นล้านบาท ประกอบกับยัง Backlog ในปัจจุบันอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยโอนช่วงไตรมาสสุดท้ายราว 7 พันล้านบาท เป็น Backlog ของโครงการแนวราบ 4 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 พันล้านบาท ซึ่งจะสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย
นายอุทัย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะกลับมาคึกคักมาขึ้นจากภาพรวมของปัจจัยในประเทศไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทย อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และยังมีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของประชาชนที่ชะลอการซื้อมา 2 ปีที่จะเริ่มกลับมาซื้อมากขึ้น จากความมั่นใจที่กลับมา และยังมีการซื้อของกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนของอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในทุกๆปี