หุ้น FLOYD ปิดเทรดวันแรกที่ 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 1.54 บาท คิดเป็น 55.00% จากราคาขาย IPO ที่ 2.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,655.94 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.45 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.35 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.24 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ บมจ.ฟลอยด์ (FLOYD) ที่ 3.00-3.24 บาท โดยใช้ PER ที่ 10-11 เท่าสำหรับปี 61 เทียบกับธุรกิจที่มีลักษณะใกล้เคียงกันเช่น PLE โดยบริษัทมีงานในมือ 250 ล้านบาท และคาดว่าจะได้งานเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้การขยายสาขาและการประมูลงานของธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น รวมถึงยังมีอัพไซด์จากการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ
บริษัทฯเป็นผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลหรือที่รวมเรียกว่า MEP (Mechanical, Electrical and Plumbing Engineering) โดยขอบเขตการให้บริการของบริษัท จะครอบคลุมตั้งแต่งานรายละเอียดทางวิศวกรรม (Detailed Engineering) การจัดหาวัตถุดิบ (Procurement) และงานรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบปรับอากาศ (Construction) โดยเริ่มตั้งแต่จัดซื้อและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ให้คำปรึกษา ออกแบบ วางระบบ และติดตั้งอุปกรณ์ภายในอาคาร โดยสัดส่วนรายได้มาจากงานระบบไฟฟ้า (40%) และงานระบบประปา, สุขาภิบาล และอัคคีภัย (40%) เป็นหลัก และกลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่จะเป็นห้างสรรพสินค้าและธุรกิจค้าปลีก เช่นกลุ่ม HMPRO (คิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 75% ในปี 59 และ 55% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 61)
โครงการอนาคต บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้มาสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการรับงาน โดยจะสร้างอาคารสำนักงานให้เหมาะสมสำหรับกับการทำงานของพนักงาน 300 คน เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต และใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรม และจัดการประชุม รวมถึงทำ workshop สำหรับฝ่ายก่อสร้าง