ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,712.26 จุด ลดลง 2.29 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 31,559.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,716.00 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,705.53 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวจากแรงขายทำกำไร ซึ่งมองเป็นเรื่องปกติในระยะสั้น ทั้งนี้ อาจจะได้เห็น Fund Flow พลิกกลับจากลบเป็นบวกได้ หลังจากเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตอบรับกระแสข่าวว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่น่าจะเป็น นายเจอโรม พาวเวล ซึ่งมีแนวคิดในแนวทางเดียวกับนางเจเน็ต เยลเลน ที่ไม่เร่งเข้มงวดนโยบายการเงินเกินไป ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทันที และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร (Bond Yield) ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิในหลายวันที่ผ่านมาอาจจะชะลอขาย อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความชัดเจนต่อไป
ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี อย่างมาตรการช็อปช่วยชาติว่าจะประกาศเงื่อนไขเวลาอย่างไร ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ภายหลังผลประชุมเฟดออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ยและไม่ได้ Surprise แต่ก็มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ พร้อมให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 2-3 วันนี้ เนื่องจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศสำคัญ ๆ อย่างจีน และสหรัฐฯ ออกมาเริ่มเห็นการเติบโตชะลอลง ทำให้กดดันต่อกลุ่มธุรกิจที่มีวัฎจักรและค่าระวางเรืออาจปรับตัวลงได้ในระยะสั้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,705 จุด ส่วนแนวต้าน 1,725 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,647.36 ล้านบาท ปิดที่ 87.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,307.21 ล้านบาท ปิดที่ 480.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,231.31 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,143.43 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,013.57 ล้านบาท ปิดที่ 77.25 บาท ลดลง 1.00 บาท