(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น รับแรงหนุนราคาน้ำมันพุ่ง-หวังรัฐออกมาตรการ"ช็อปช่วยชาติ"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 7, 2017 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ หลังรับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นผลักดันให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงอาจมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีกเข้ามาจากความคาดหวังการที่รัฐบาลจะออกมาตรการช็อปช่วยชาติ หลังกระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.ในวันนี้ ตลอดจนยังมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องในหุ้นรายตัวที่คาดว่างบไตรมาส 3/60 จะออกมาดี โดยให้แนวรับบริเวณ 1,700-1,705 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,715 และ 1,720-1,722 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ มีโอกาสรีบาวด์ต่อ หลังจากมีการสร้างฐานในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่หลุดแนวรับ 1,700 จุด ทำให้เริ่มมีสัญญาณดีดกลับ คาดว่าตลาดจะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกคาดว่าจะได้ผลบวกจากการที่ครม.จะพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติ นอกจากนี้เชื่อว่ายังมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/60 จะออกมาดีด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีน ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปในเดือนก.ย. ตลอดจนการเยือนภูมิภาคเอเชียของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ

พร้อมให้แนวรับที่ 1,700-1,705 จุด แนวต้านที่ 1,715 และ 1,720-1,722 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 พ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,548.42 จุด เพิ่มขึ้น 9.23 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,591.13 จุด เพิ่มขึ้น 3.29 จุด (+0.13%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,786.44 จุด เพิ่มขึ้น 22.00 จุด (+0.33%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 29.60 จุด ,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 118.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 3.41 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 พ.ย.60) 1,711.74 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด (+0.60%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 200.31 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 พ.ย.60) ปิดที่ระดับ 57.35 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ย.60) ที่ 7.27 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.09 แนวโน้มแข็งค่า ตลาดรอความชัดเจนมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
  • ธปท.รายงานดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายล่าสุดในเดือน ก.ย.และไตรมาส 3 ที่ผ่านมา พบว่า เดือน ก.ย.เงินทุนไหลออกสุทธิ 984 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.26 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1,280 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.24 หมื่นล้านบาท
  • ธปท. เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ธปท.จะเปิดเผยรายงานผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยตัวเลขสำคัญที่มีการ จับตามองมากคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังคงมีการขยายตัวเพิ่ม โดยสิ้นไตรมาส 3 เอ็นพีแอลทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 4.28 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.97% ของสินเชื่อรวม
  • คลังเสนอมาตรการช็อปช่วยชาติ เข้าครม.วันนี้ ดีเดย์ 11-30 พ.ย.นี้ หวังกระตุ้น การจับจ่ายช่วงท้ายปีคึกคัก มั่นใจมาตรการคุ้มค่าย้ำใช้ไม่นาน นายแบงก์หนุนเชื่อช่วยให้เศรษฐกิจ เดินเครื่องได้เร็วขึ้น ขณะ "ค้าปลีก" ขานรับมาตรการรัฐ เตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าเชื่อเทคโนโลยีใหม่ให้บริการสะดวก-เร็วขึ้น ด้าน"สมคิด"สั่งคลังเร่งช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนรายได้น้อยเฟส 2 จำนวน 11 ล้านคน ให้พ้นจากความยากจน หลังจากการดูแลภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว โดยคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปีนี้ จะขยายตัวได้ 4% และไตรมาส 4 จะขยายตัวได้มากกว่า 4%
  • "สมคิด" สั่ง 3 แบงก์รัฐบูรณาการการทำงานครั้งใหญ่ ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SME หวังให้เป็นอีกแรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เผยต้องเร่งปล่อยสินเชื่อ ให้คำแนะนำการทำธุรกิจ สนับสนุนด้านการนำเข้าส่งออก พร้อมดึงแบงก์พาณิชย์เข้าร่วมวงช่วยอีกแรง ด้านสมาคมธนาคารไทยขานรับให้ความรู้ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ลดความเสี่ยงทำธุรกิจ คาดช่วยได้อีก 1.7 หมื่นราย วงเงินอัตราแลกเปลี่ยน 5.6 หมื่นล้านบาท
  • นายกฯร่วมประชุมเอเปค 21 ชาติ ภายใต้หัวข้อ เศรษฐกิจภายใต้พลวัฒน์ใหม่ ส่งเสริมการมีอนาคตร่วมกัน "พาณิชย์" เผยเวทีประกาศจุดยืนยุทธศาสตร์ไทย ปรับตัวรับพลวัฒน์ เทรนด์ยั่งยืนโลก เน้นเชื่อมโยงเติบโต สร้างสรรค์นวัตกรรม ชูจุดขายอีอีซี ดึงทุนสู่ไทย-อาเซียน
  • สรท.คาดส่งออกไทยปี 60 โตไม่ต่ำกว่า 8% หลัง 9 เดือน ยอด 1.75 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนปี 61 ขยายตัว 5%
  • ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจได้วางกรอบแนวคิดเรื่องปฏิรูปเศรษฐกิจระยะ 20 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การพัฒนาเศรษฐกิจให้ยั่งยืนและครบทุกมิติ และมีเป้าหมายรอง คือ การเติบโตที่รวดเร็วมีคุณภาพให้สามารถแข่งขันได้ กระจายสู่ทุกคนและยั่งยืน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ECF-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ครั้งที่ 3) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 129,951,632 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 5.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี 4 เดือน ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 25 พ.ค. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 ก.พ. 2564
  • ECF-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ครั้งที่ 2) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 194,929,773 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 4 เดือน ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 25 พ.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 ก.พ. 2562

อนึ่ง ตลท.ให้ ECF-W2,ECF-W3 ใช้เกณฑ์ Cash Balance ตั้งแต่ 7-17 พ.ย.60

  • CKP (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 5 บาท กำไรที่เร่งตัวขึ้นใน H2/60-H1/61 เป็น catalyst ระยะสั้นต่อราคาหุ้น ขณะที่รวมมูลค่าเพิ่มจากโรงไฟฟ้า BIC2 120MW (ถือหุ้น 65%) เข้ามา และ rollover ไปปี 2561
  • ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 27 บาท เป็นหุ้น Outperform สุดในกลุ่มอสังหาฯ จากผลงบานโดดเด่น โดยคาดกำไร Q3/60 ทำจุดสูงสุดใหม่ 534 ลบ. +124% Q-Q, +237% Y-Y และดีต่อเนื่องใน Q4/60 จากการโอนคอนโด Park 24 จึงปรับกำไรปี 2560-2561 ขึ้น 5-15% เป็นโตสูง 230% Y-Y และ 43% Y-Y ตามลำดับ นอกจากรายได้โอนที่มีต่อเนื่องแล้ว การขยายธุรกิจแบบ JV ยังช่วยลดข้อจำกัดด้านเงินทุน และเพิ่มรายได้แบบ recurring จากการรับบริหารโครงการ ซึ่งจะทำให้การเติบโตในอนาคตมั่นคงขึ้น
  • AMANAH (ยูโอบี เคย์เฮียน) "ซื้อ" เป้า 2.70 บาท ผลงานไตรมาส 3/60 พลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานปกติหลังไม่มีการตั้งสำรองเช่นไตรมาส 3/60 เกิดจากสินเชื่อที่ปล่อยให้ผู้ประกอบการ บริษัทปรับพอร์ตการปล่อยกู้เน้นการ high yield จำนำทะเบียนรถ และมีการคุมเข้มคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น
  • COM7 (เคจีไอ) เป้า Consensus เฉลี่ย 16.2 บาท ประเมินกำไร Q3/60 โต YoY และ QoQ จากการเปิดธุรกิจใหม่เพิ่มเติม อาทิ ธุรกิจลีสซิ่ง, ร้านมือถือหัวเว่ย + OPPO, รุกการขายสินค้าเข้าลูกค้าองค์กร เป็นต้น ส่วนมาตรการ “ช้อปช่วยชาติ" ที่คาดจะนำเข้าที่ประชุม ครม วันนี้ จะเป็นบวกต่อยอดขายสินค้าไอทีครบวงจรของ COM7 (มีครบทุกยี่ห้อทั้งคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, กล้องดิจิตอล ฯลฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ