หุ้น SIRI ราคาขยับขึ้น 2.50% มาอยู่ที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 319.81 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.05 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.48 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.48 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 2.44 บาท
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ โดยเลือกหุ้นบมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นหุ้นเด่นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ล่าสุด SIRI ทำการเซ็น MOU ซื้อโครงการ "นิมิต หลังสวน" ของบมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) ซึ่งคาดว่า SIRI จะสามารถซื้อโครงการดังกล่าวในราคาที่คุ้มค่า และจะเป็นประโยชน์ในแง่ผลการดำเนินงานในอนาคต
นอกจากนั้นราคาหุ้นยังมีประเด็นเรื่องการแปลงสภาพ SIRI-W2 จะสิ้นสุด 24 พ.ย. เป็นอีกปัจจัยให้"เก็งกำไร"
รวมทั้งเช้านี้ SIRI แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) บริษัทได้เข้าลงทุนใหม่รวม 3 บริษัท ทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งทำธุรกิจโรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า ตลอดจนธุรกิจสื่อ เพื่อรองรับการขยายงานในต่างประเทศ ได้แก่
1. การลงทุนใน Standard International, LLC (The Standard) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 35.09 ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งจะทะยอยลงทุนเป็นคราว ๆ จนเต็มมูลค่าการลงทุน ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยกำหนดชำระเงินลงทุนคราวแรก เป็นจำนวน 16,294,586 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 541.46 ล้านบาท ภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 โดยบริษัทมีสิทธิในการแต่งตั้งกรรมการ 4 คน จากจำนวนกรรมการทั้งหมด 7 คน
ทั้งนี้ The Standard ประกอบธุรกิจหลัก รับบริหารกิจการโรงแรมในรูปแบบ management contract และ franchise ภายใต้แบรนด์ “The Standard" และ “Bunkhouse" ซึ่งปัจจุบันโรงแรมแบรนด์ The Standard มีสาขาอยู่ในสหรัฐอเมริกา รวม 5 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองหลัก เช่น นิวยอร์ค และ ลอสแอนเจลิส เป็นต้น ส่วนแบรนด์ Bunkhouse เป็นโรงแรมแบบ boutique hotels ซึ่งปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 7 แห่ง นอกจากนี้ Bunkhouse ยังมีกิจการร้านกาแฟ และพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์อีก 2 แห่งด้วย
นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจรับบริหารกิจการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ มากกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารต่าง ๆ ตั้งอยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส, นิวยอร์ค และไมอามี เป็นต้น ,ธุรกิจด้านการจองห้องพัก The Standard Hotel และ boutique hotels อื่น ๆ โดยใช้แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “One night stand" ซึ่งครอบคลุมใน 9 เมืองสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน่ ดังกล่าวเป็นช่องทางสำหรับการใช้บริการและเสนอราคาพักที่ดีที่สุดอีกช่องทางหนึ่ง
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับนั้น คาดว่าจะได้รับทักษะ-ความรู้-ความชำนาญ (Know-how) ของการบริหารโรงแรมในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับ ซึ่ง The Standard Hotel เป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีชื่อเสียงด้าน Life-Style Hotel และได้รับโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจร่วมกับ The Standard Hotel ในอนาคต ซึ่งโรงแรมจะมีการขยายธุรกิจมาสู่ที่พักอาศัย ภายใต้ชื่อ The Standard Residence และได้รับโอกาสในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ของกลุ่มแสนสิริ ไปสู่ต่างประเทศ
2.การเข้าลงทุนใน Flying Jamon Ltd (Hostmaker) โดยการเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิของ Flying Jamon Ltd (Hostmaker) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศอังกฤษและเวลส์ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 11.20 ของหุ้นทั้งหมด โดยกำหนดชำระเงิน เป็นจำนวน 5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 219.75 ล้านบาท ภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 โดยชำระเป็นเงินสดจากเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับ Flying Jamon Ltd ประกอบธุรกิจรับบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่า ภายใต้แบรนด์ Hostmaker โดยเสนอบริการแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่การออกแบบห้อง จัดแต่งห้องพักให้สวยงาม โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ของ Hostmaker รวมไปถึงการบริหาร Profile อสังหาริมทรัพย์ของลูกค้าเพื่อดึงดูดผู้เข้าพักให้มีอัตราการเข้าพักและการจองให้มากที่สุด ตลอดจนจัดหาลูกค้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และให้บริการแบบโรงแรมในระดับ 5 ดาวแก่ลูกค้าทุกราย รวมทัง้ บริการบำรุงรักษาและทำความสะอาดห้องพัก ซึ่งปัจจุบัน Hostmaker ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 4 เมือง ได้แก่ ลอนดอน ปารีส โรม และ บาร์เซโลน่า
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับนั้น บริษัทได้รับทักษะ-ความรู้-ความชำนาญ (Know-how) ของการบริหารและบริการที่พักอาศัย ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร และส่งผลต่อธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีและช่องทางการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป (Disrupt) เพื่อเข้าถึงตลาดคนรุ่นใหม่ได้อย่างกว้างขวาง
3.การเข้าลงทุนใน Winkontent AG (Monocle) โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Winkontent AG (Monocle) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 13.04 ของหุ้นทั้งหมด โดยกำหนดชำระเงินเป็นจำนวน5,908,694.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 195.87 ล้านบาท ภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 โดยชำระเป็นเงินสดจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับ Winkontent AG ประกอบธุรกิจหลักด้านสื่อ (Media) ได้แก่ นิตยสาร ชื่อ “Monocle" นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น วิทยุ 24 ชัว่ โมง, E-commerce,ร้านขายสินค้าแฟชัน่ และการจัดงาน event ต่าง ๆ เป็นต้น โดยปัจจุบัน Monocle ได้ดำเนินการอยู่ในประเทศใหญ่ ๆ เช่น England (สำนักงานใหญ่), USA, Canada, Japan, Singapore และ Hong Kong
ประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทจะได้รับ ได้แก่ การได้รับโอกาสในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ของกลุ่มแสนสิริ ไปสู่ต่างประเทศ , โอกาสที่จะได้ร่วมพัฒนาในด้านต่างๆ ระหว่าง กลุ่มแสนสิริ กับ Monocle เช่น การตลาด เป็นต้น และร่วมกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยใช้แบรนด์ Monocle