นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะหารือกับผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อหาทางออกกรณีที่การเปิดประมูลโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสารล็อตแรกจำนวน 489 คันครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้เอกชนที่ซื้อซองประมูลไปทั้ง 8 รายไม่เข้ามายื่นซองประมูลแม้แต่รายเดียว
ทั้งนี้ ขสมก.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายเพื่อหาช่องทางที่จะจัดหารถเมล์ NGV ตามที่กำหนดไว้ เบื้องต้นจากการหารือกับประธานคณะกรรมการ ขสมก.แล้ว อาจจะเป็นไปได้ทั้งการปรับราคากลางเพิ่มจากเดิมอีก 10% แล้วเปิดประมูลใหม่ตามขั้นตอนปกติ หรืออาจจัดหาด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งก็จะต้องพิจารณาว่ามีความเร่งด่วนและเกิดประโยชน์หรือไม่ รวมทั้งต้องพิจารณาว่าขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ด้วย
"กระทรวงฯ อยากเห็นเร็ว ถ้าวิธีอย่างนั้นได้ (เรียกเอกชนทั้ง 8 รายมาเจรจา) ผมคิดว่าทาง ขสมก.กำลังเช็ควิธีทางกฎหมายว่าทำได้หรือไม่" นายพิชิต กล่าว
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวี (CHO) กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ได้เข้าร่วมประมูลเนื่องจากคณะกรรมการบริษัทด้านควบคุมความเสี่ยงเห็นว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากราคากลางตัวรถโดยสารจะมีกำไรแค่ 1% กว่าๆ แต่หากรวมซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนแล้วอาจจะขาดทุน ส่วนที่เหลือเป็นราคาค่าซ่อมบำรุงนั้นมีกำไรที่บริษัทสามารถยอมรับได้นั้นก็เป็นสัญญาระยะยาว
"อัตราแลกเปลี่ยนของตัวรถเป็น one time ส่วนค่าซ่อมระยะยาว 10 ปี ถ้าดูภาพรวมแล้วคิดว่าน่าพอจะเอามาตู๊กันได้ แต่ไม่ได้รับเงินพร้อมกัน อีก 10 ปีถึงจะได้รับ ซึ่งเป็นภาวะที่มีความเสี่ยงเกินไป" นายสุรเดช กล่าว
นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาตามมาจาก TOR ที่กำหนดให้ส่งมอบรถเมล์ NGV จำนวน 20 คันแรกภายใน 1 เดือน เนื่องจากบริษัทมีรถพร้อมจะส่งมอบอยู่แล้วในปัจจุบัน จึงเกรงว่าอาจจะเกิดข้อครหาได้