นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ที่เตรียมจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น คาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ HUMAN เป็นผู้ให้บริการงานด้านทรัพยากรบุคคล (Human Resources Solutions : HR Solutions) ที่ครบวงจร ทั้งในส่วนของการให้บริการรับช่วงบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและการจัดทำเงินเดือน (Human Resources and Payroll Outsourcing) การจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบงานบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources System) และการให้บริการด้านการบริหารจัดการบัญชีและการเงิน (Financial Solutions) ทั้งในส่วนการจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบงานวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning) และให้บริการจัดทำบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance Outsourcing) โดยจดทะเบียนเมื่อปี 46 มีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท
ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 400 บริษัทใช้บริการ HR Outsourcing ของ HUMAN ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เติบโตจาก 212.77 ล้านบาทในปี 57 เพิ่มเป็น 351.95 ล้านบาทในปี 59 คิดเป็นรายได้เฉลี่ยถึงปีละ 28.62% ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 12.31 ล้านบาทในปี 57 เป็น 71.06 ล้านบาทในปี 59
ในงวด 6 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้ 234.11 ล้านบาท ซึ่งเติบโตถึง 50.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 37.08 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของบริษัท เป็นต้นทุนคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรของ HUMAN มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้รายได้กว่า 75% เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Recurring Income) จากที่ลูกค้าจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน ทั้งจากการให้บริการ HR Outsourcing และ Financial Solution ซึ่งลูกค้ามีความจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
ด้านนายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HUMAN กล่าวว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อจะย้ายสำนักงานไปยังพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มบริษัท พร้อมก่อตั้ง Learning Center เพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากร นอกจากนี้จะมีลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมถึงมีแผนลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัทเพื่อให้บรรลุพันธกิจในการที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทในระยะยาว และจะนำเงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน แต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่แน่นอนที่จะใช้ในการย้ายสำนักงานได้ เนื่องจากต้องรอให้มีการระดมทุนเสร็จเรียบร้อยก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีรายได้มากกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจใช้บริการของบริษัทในช่วงปลายปี และ คาดว่าภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ในปีหน้าบริษัทจะมีรายได้สูงขึ้น เพราะจะมีลูกค้าเชื่อมั่นเข้ามาใช้บริการมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้