หุ้น KCE ราคาอ่อนตัวลง 2.79% มาอยู่ที่ 87 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 209.81 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 89.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 89.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 86.25 บาท
วานนี้ (8 พ.ย.) หุ้น KCE ติดลบ 8.21% ปิดที่ 89.50 บาท ลดลง 8 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับเปลี่ยนคำแนะนำหุ้น บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) จาก“ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เป็น “ถือ" แต่คงราคาเป้าหมายได้ที่ 104 บาท เนื่องจากเชื่อว่า KCE ยังควบคุมระดับยอดขายได้ในปี 61 เพื่อให้ได้ผลกำไรที่ต้องการด้วยความเที่ยงตรงในระดับหนึ่ง แต่มองว่าปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างราคาทองแดงและค่าเงินบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาขายสุทธิและต้นทุนที่ KCE อาจจะควบคุมได้แบบไม่เต็มที่อย่างน้อยในไตรมาสต่อไปทำให้ Profit Margin มีความผันผวนได้
ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน Q3/60 ที่ 611 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก โดยยอดขายเติบโต 2 % y-o-y และ -2% q-o-q เติบโตได้ดีในฝั่งยุโรป และหดตัวในฝั่งเอเชีย กำไรสุทธิเติบโต -9 % y-o-y และ -22% q-o-q รวมถึง Gross Margin ใน Q3/60 ไม่เป็นไปตาม Guidance ของผู้บริหารที่ประเมินว่าจะสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน
พร้อมมองว่า KCE กำลังอยู่ในเฟสการเปลี่ยน Composition ในพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจด้วยการเปลี่ยนจากการจากธุรกิจที่มี Profit Margin ต่ำอย่างผลิตภัณฑ์ PCB ประเภท Double Side มาโฟกัสในผลิตภัณฑ์ PCB ประเภท Multi-Layer และ HDI โดยตั้งใจจะให้พอร์ตโฟลิโอเป็นแบบ 50:50 ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดย ณ ขณะนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในส่วนการผลิตอาจจะต้องมีของเสียหรือ Scrap ค่อนข้างเยอะในการผลิตล็อตแรกๆ และค่อยๆ มีน้อยลงในช่วงต่อไป ซึ่งในขณะนี้ในส่วน HDI กำลังอยู่ในเฟสเปลี่ยนผ่านนั้น โดย HDI ในขณะนี้มีอยู่ราวร้อยละ 5-7 ของสินค้าทั้งหมด