นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า บริษัทยื่นเสนอขอขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ปี 60 จากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP Hybrid Firm 2560) จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ภาคใต้
และมีความพร้อมที่จะเข้าประมูลในส่วนของโครงการ VSPP Semi Firm ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวลที่คาดว่าภาครัฐจะเปิดให้ประมูลในช่วงต้นปี 61 ซึ่งจากประสบการณ์ทำงานในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้ดี สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้นและช่วยผลักดันให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ที่ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 63 ตามเป้าหมาย
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (สิ้นสุดเดือน ก.ย.60) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 130.69 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 130.99 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/60 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.22 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 49.53 ล้านบาท เนื่องจากตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีและเงินลงทุนชั่วคราว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/60 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา เพราะโรงไฟฟ้าชีวมวลมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการเดินเครื่องจ่ายไฟโรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์และจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 85% โดยมีการกำหนดการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/60
“ไตรมาส 3 ที่กำไรลดลง เพราะการตั้งสำรอง ซึ่งอยากจะขอให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลกับเรื่องดังกล่าว เพราะในไตรมาส 4 จะไม่มีการตั้งสำรองแล้ว การเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าชีวมวลก็มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น แน่นอนเมื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรายได้จะต้องเพิ่มขึ้นตามอย่างแน่นอน ส่วนปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทั้งหมด 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ,โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG),โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH1,TPCH2และ TPCH5"นางกนกทิพย์ กล่าว