นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทจะมีผลการดำเนินงานหลักเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/60 จะเห็นทิศทางการเคลื่อนไหวในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นไตรมาสที่มีการอ่อนตัวตามฤดูกาลตามปกติ แต่มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ตามที่ให้คำมั่น
ปัจจัยด้านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีกำไรเพิ่มขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าเพิ่ม (HVA) ซึ่งมีกำไรสูง รวมทั้งปริมาณการผลิตที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและการได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์
"เราเชื่อว่าปี 60 จะเป็นอีกปีที่เรามีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าเราจะตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตของกำไรเป็น 2 เท่าในทุกๆ 5 ปี แต่จากผลการดำเนินงานในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ปี 60 นี้ เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในเวลาเพียง 4 ปี"นายอาลก กล่าว
นายอาลก กล่าวอีกว่า บริษัทมีกระแสรายได้ที่หลากหลาย อยู่บนพื้นฐานส่วนผสมที่แข็งแกร่งทั้งในด้านความสามารถ ภูมิภาคที่ตั้งและกลุ่มธุรกิจ โดยบริษัทจะยังคงเดินหน้าเร่งสร้างการเติบโต และการดำเนินงานเต็มศักยภาพของกระแสรายได้ในทุกกลุ่ม
IVL แจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 มีกำไรสุทธิ 3.52 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 3.18 พันล้านบาท และในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท จากระดับกำไร 1.32 หมื่นล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายอาลก กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 ที่ออกมา ส่งผลให้การดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกแรกของบริษัทมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหนือการประมาณการในทุก ๆ ตัวชี้วัดด้านการเงินหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือในทุกสถานกาณ์ของกลุ่มธุรกิจ รวมทั้งประโยชน์ที่ได้รับจากโมเดลทางธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ มีความหลากหลายและมีการบูรณาการ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างชัดเจนและแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาธุรกิจ PTA และ PET ประกอบกับโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่ได้ประกาศไปแล้วและการเข้าซื้อกิจการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตของกำไรในปี 61 และในอนาคต
ไตรมาส 3/60 บริษัทเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการบริษัท DuraFiber ในประเทศเม็กซิโกและฝรั่งเศส รวมถึงโครงการขยายการผลิตในประเทศจีนและอินโดนีเซียที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์เส้นใยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) และจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและกำไรเพิ่มเติม
ในเดือน ก.ย.60 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (DJSI) และติดอันดับ 1 ใน 5 บริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลก นอกจากนี้ยังมีพัฒนาการสำคัญที่เกิดขึ้น คือ ไอวีแอลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท DuPont Teijin Films ซึ่งเป็นผู้ผลิตฟิล์มมูลค่าเพิ่ม BOPET และ PEN ชั้นนำของโลก การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังฟิล์มโพลีเอสเตอร์ ทำให้ไอวีแอลสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้กว้างขึ้น
ขณะเดียวกันโครงการก๊าซแครกเกอร์ กำลังการผลิต 440,000 ตันต่อปีในสหรัฐที่กำลังปรับปรุง มีการดำเนินการตามแผนและคาดว่าจะเสร็จสิ้นการปรับปรุงในไม่กี่เดือนข้างหน้าและเริ่มการผลิตได้ในช่วงต้นปี 61