บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) คาดว่าในปี 61 ผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนพลิกฟื้นธุรกิจ ซึ่งระยะแรกเป็นแผนลดขาดทุนภายใน 6 เดือน และระยะที่ 2 เป็นช่วงสร้างความพร้อมเพื่อเดินไปข้างหน้า นับตั้งแต่ปี 61 ถึงต้นปี 62 ส่วนระยะที่ 3 เป็นแผนที่จะกลับไปขยายเส้นทางบินอีกครั้งในช่วงปลายปี 62-64 ที่จะมีการรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX จำนวน 8 ลำ ที่จะทยอยเข้ามาในปี 62 เพื่อนำมาใช้ในเส้นทางบินสู่จีน
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOK กล่าวว่า ในปี 60 จำนวนผู้โดยสารจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนมาที่ 8 ล้านคน เพราะมีการปรับเปลี่ยนเที่ยวบิน ขณะที่อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ในปีนี้เป็นไปตามแผนงานที่ระดับ 82-83%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 น่าจะดีขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น และมีการใช้เครื่องบินได้อย่างประสิทธิภาพ(Utilization) มากขึ้น โดยมีเป้าหมายในเดือนธ.ค.นี้จะมีการใช้ 10.4 ชั่วโมง/วัน/ลำ ที่ผ่านมาดีขึ้นตามลำดับจากเดือน ก.ย.ซึ่งอยู่ที่ 7 ชั่วโมง/วัน /ลำ, เดือน ต.ค. อยู่ที่ 9 ชั่วโมง/วัน/ลำ , เดือน พ.ย.อยู่ที่ 10.1 ชั่วโมง/วัน/ลำ และในปี 61 ตั้งเป้าที่ 11 ชั่วโมง/วัน/ลำ
ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทจะปลดระวางเครื่องบินเก่า เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 1 ลำ จากช่วงครึ่งปีแรกรับเครื่องบินใหม่เป็นโบอิ้ง 737-800 มา 2 ลำ ทำให้สิ้นปี 60 มีจำนวนเครื่องบิน 29 ลำและในปี 61 ก็จะปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 อีก 2 ลำ เพื่อลดภาระรายจ่าย ทำให้ปี 60 คาดว่าจะขาดทุนน้อยลง จากปีก่อนมีผลขาดทุน 2,795 ล้านบาท
"ผมคิดว่าไตรมาส 4 นี้จะดีขึ้น ตอนนี้คนมี mode อยากเดินทางมากขึ้น ชั่วโมงการใช้เครื่งบินดีขึ้น มี Product ใหม่ ดูแล้ว overall น่าจะดี ปีนี้ก็ขาดทุนน้อยลง" นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวว่า NOK ได้เลื่อนการรับมอบเครื่องบินใหม่ออกไปก่อน ทำให้ปีหน้าจะไม่มีเครื่องบินใหม่ โดยบริษัทปรับปรุงรายจ่าย และเตรียมความพร้อมที่จะขยายธุรกิจในปีถัดไป โดยในช่วงปี 62-64 จะทยอยรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX จำนวน 8 ลำ ซึ่งในปี 62 รับมอบ 2 ลำ ปี 63 รับมอบ 2 ลำ และปี 64 รับมอบ 4 ลำ
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของ NOK มาจากเส้นทางต่างประเทศ 35% ซึ่งมีแผนเพิ่มเป็น 40% ในปี 63 และปรับลดรายได้จากเส้นทางในประเทศมาที่ 60% จาก 65% ขณะที่รายได้จากเส้นทางบินจีนมีสัดส่วน 20% ของรายได้
ในปี 61 NOK จะทยอยเปิดเส้นทางบินประจำไปจีนเพิ่มอีก 10 เมืองในไตรมาส 1/61 จากปัจจุบันที่เปิดบิน 19 เมืองในรูปแบบเช่าเหมาลำ โดยในเดือน ธ.ค.นี้จะเปิดจุดบินใหม่ในจีนอีก 3 เมือง ได้แก่ ซีอาน หวู่ซี่ ส่วนอีกเมืองยังไม่เปิดเผยชื่อ ทั้งนี้อยู่ระหว่างประสานการขายตั๋วโดยสารผ่าน Ali Pay และ we chat pay คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปีหน้า
นอกจากนี้ จะเปิดเส้นทางบินในประเทศ อีก 4 เส้นทางเป็นเส้นทางข้ามภาค อาทิ อุดรธานีไปเชียงใหม่ เป็นต้น
ด้านการเปิดจุดบินใหม่ในอินเดีย นายปิยะ กล่าวว่า การเปิดเส้นทางบินใหม่ในอินเดียค่อนข้างยาก NOK อยู่ระหว่างเจรจากับ SPICE JET Airlines สายการบินต้นทุนต่ำของอินเดียที่จะร่วมมือกัน คาดว่าจะสรุปผลได้เร็วๆนี้
ในวันนี้ NOK เปิดตัวรูปแบบของการเดินทางแบบใหม่ที่ให้อิสระแก่ผู้โดยสารมากขึ้นในการเลือกซื้อบัตรโดยสารและบริการต่างๆ ให้เหมาะกับความต้องการของผู้โดยสารแต่ละท่าน โดยการพัฒนาครั้งนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร ทำให้ทุกการเดินทางสะดวกสบาย เป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน และรวดเร็ว เพียงคลิก “1-2-3 บุ๊ก แอนด์ บิน" เริ่มจองได้แล้ววันนี้ทุกช่องทาง ได้แก่ เว็บไซด์ www.nokair.com แอปพลิเคชั่นนกแอร์ คอลเซ็นเตอร์ 1318 และเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารนกแอร์ทุกแห่ง
ทั้งนี้ บัตรโดยสารนกแอร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) บินเบา ๆ (Nok Lite) ที่ตอบโจทย์ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางโดยมีเพียงสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง 2) บินสบาย (Nok X-tra) ตอบโจทย์ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางพร้อมสัมภาระที่ต้องการโหลดขึ้นเครื่อง และ 3) บินเพลิดเพลิน (Nok MAX) ตอบโจทย์ผู้โดยสารที่ต้องการโหลดสัมภาระขึ้นเครื่อง โดยจะได้รับน้ำหนักสัมภาระ15 กิโลกรัมสำหรับเส้นทางภายในประเทศ และ 20 กิโลกรัมสำหรับเส้นทางต่างประเทศ พร้อมรับบริการอาหารร้อนบนเที่ยวบิน นอกเหนือจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถเลือกบริการเสริม นกเปลี่ยนได้ (Nok Flexi) สำหรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการเช็กอินช่องทางพิเศษและการเปลี่ยนแปลงรายระเอียดการสำรองที่นั่ง
นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการอื่นๆ บนเว็บไซต์นกแอร์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำการจองบัตรโดยสารประเภทใดก็ตาม และบัตรโดยสารทุกประเภทยังสามารถเลือกที่นั่งได้ฟรี พร้อมบริการน้ำดื่ม (นกชื่นใจ) ในทุกเที่ยวบินเช่นเดิม