นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) คาดว่ารายได้รวมในปี 60 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 1 ปี ในสัดส่วน 60% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2562 ซึ่งบริษัทมีแผนทยอยเพิ่มงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ยังทรงตัว ความต้องการใช้คอนกรีตของงานโครงการภาครัฐค่อนข้างจะทรงตัว แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการทยอยอนุมัติงานโครงสร้างพื้นฐานออกมาอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของงานภาคเอกชนความต้องการใช้งานยังขยายตัวไม่มากนัก
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2561 การลงทุนภาครัฐจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีโครงการต่างๆที่เริ่มดำเนินงานก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณการบริโภควัสดุก่อสร้าง อีกทั้งเป็นแรงหนุนให้เกิดความมั่นใจในการลงทุนโครงการใหม่ของภาคเอกชน ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้คอนกรีตมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามปัจจัยดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นายอาทิตย์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำตลาดคอนกรีตในภาคตะวันออก โดนเน้นการเข้าเสนองานใหม่กับลูกค้าภาครัฐ-เอกชน งานราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ อีกทั้งเร่งขยายช่องทางการ จัดจำหน่ายสินค้า Precast ผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนุนยอดขายให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และยังเป็นการช่วยขยายตลาดต่างจังหวัด ที่บริษัทยังไม่มีตัวแทนจำหน่าย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถวางจำหน่ายสินค้าได้ภายในกลางปี 2561 นี้
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/60 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 623 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.67 ล้านบาท และผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,765 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,761.72 ล้านบาท มีขาดทุนสุทธิ 37 ล้านบาท จากบริษัทในเครือที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และค่าใช้จ่ายพิเศษ
“สำหรับแนวทางในอนาคต บริษัทจะเน้นแนวทางในการลดต้นทุน ทั้งด้านกระบวนการผลิต และด้านวัตถุดิบ และขยายช่องทางการจำหน่าย เพื่อให้สามารถเพิ่มอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น"นายอาทิตย์ กล่าว