นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) คาดว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/60 น่าจะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/60 ที่มีรายได้รวม 213.57 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.86 ล้านบาท หลังจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง โดยสต็อกวัตถุดิบที่มีต้นทุนสูงได้ถูกใช้ไปจนเกือบหมดแล้วในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังคาดว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้ จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 855 ล้านบาท โดย 9 เดือนปีนี้มีรายได้แล้ว 636.62 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/60 มีรายได้รวม 213.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.64% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/60 และลดลง 3.53% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/59 ขณะที่งวด 9 เดือนปีนี้มีรายได้รวม 636.62 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 639.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.15 ล้านบาท
"รายได้รวมในไตรมาส 3/60 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4.64% เนื่องจากมีรายได้จากการส่งออก ที่เริ่มส่งออกให้ CEAT หลังจากช่วง ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ที่ผ่านมาได้ชะลอการส่งออก เพื่อปรับสูตรการผลิตตามความต้องการลูกค้า ขณะที่ในส่วนของรายได้รวม 9 เดือนปีนี้ลดลงเล็กน้อย 0.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายต่างประเทศลดลง แต่ยอดขายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้รวมปรับตัวลดลงไม่มากนัก" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ต้นทุนขายในไตรมาส 3/60 เพิ่มขึ้น 5.86% จากไตรมาส 2/60 และเพิ่มขึ้น 7.82% จากไตรมาส 3/59 ซึ่งเกิดขึ้นจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยในช่วงเวลาที่ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นนั้น ทางบริษัทได้เตรียมแผนขึ้นราคาสินค้าเพื่อรักษาระดับกำไรขั้นต้นไว้ แต่ราคาวัตถุดิบได้ดิ่งตัวลงอย่างรวดเร็วในเดือนพฤษภาคม 2560 จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ แต่บริษัทยังคงต้องซื้อวัตถุดิบที่ซื้อล่วงหน้าไว้ในรา คาแพง จึงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร
ในส่วนของค่าใช้จ่ายบริหารและการขายในไตรมาส 3/60 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการบริหารและควบคุมงบประมาณที่เป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้