SMPC คาด Q4/60 ยอดขายโตต่อเนื่องจากความต้องการถังแก๊ส LPG ในเอเชียใต้-แอฟริกา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 14, 2017 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ. สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2560 คาดว่ายอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการถังแก๊ส LPG ที่สูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียใต้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงหุงต้มมาเป็น LPG และความต้องการที่สูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น รวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีการเปลี่ยนมาใช้ LPG แทนฟืนและน้ำมันก๊าด ซึ่งประเทศดังกล่าวนี้เป็นลูกค้าหลักของ SMPC ทั้งนี้ จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าในปัจจุบัน ทำให้ SMPC ได้เพิ่มกำลังการผลิตใหม่รองรับไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ Q2/60 ส่งผลให้ SMPC มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก โดยปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมใหม่ในปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 8.2 ล้านใบต่อปี จากเดิม 7.2 ล้านใบ เพื่อสามารถรองรับออเดอร์ที่เพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/60 มีกำลังการผลิตรวม 8.2 ล้านใบ

“แนวโน้มธุรกิจทั้งปี 60 บริษัทฯ ประเมินยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 3,469 ล้านบาท ถึงแม้ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้างในฐานะผู้ส่งออก เพราะยอดขายหลักกว่า 80% มาจากการส่งออก แต่บริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำ natural hedging หรือพิจารณาซื้อ Forward ตามความจำเป็นและเหมาะสม นอกจากนี้ด้วยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น จะทำให้เกิด economy of scale ช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้" นายสุรศักดิ์กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯงวดไตรมาส 3/60 มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.2% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 900 ล้านบาท เนื่องจากงวดนี้ปริมาณขายเพิ่มสูงขึ้น 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการอย่างต่อเนื่องของลูกค้าในแถบเอเชียและแอฟริกา โดยมีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/60 จำนวน 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น สุทธิด้วยต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น

“ผลงาน Q3/60 ที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งยอดขายและกำไร โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 249 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ที่ผ่านมาต้นทุนวัตถุดิบประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันที่รุนแรงในบางประเทศ ทำให้อัตราการทำกำไรลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 31.5% ส่วนใหญ่เกิดจากการขายเศษซากจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้น" นายสุรศักดิ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2560 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 3,128 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 667 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.1% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 381 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 422 ล้านบาท ลดลง 41 ล้านบาท หรือลดลง 9.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ