โบรกเกอร์ เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เล็งผลกำไรปีนี้-ปีหน้าเติบโตโดดเด่นจากธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยล่าสุดจับมือกลุ่ม GULF ลงทุนวางท่อจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม Eastern Seaboard 2 และ 4 คาดเริ่มจำหน่ายในไตรมาส 3/61
นอกจากนี้ ในระยะสั้น WHAUP มองเห็นโอกาสทำโครงการ Solar roofs บนหลังคาโกดังสินค้าในเครือ และโรงงานสำเร็จรูป คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 150-200 เมกะวัตต์ ขายตรงให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม แต่กระบวนการติดตั้งยังต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน การให้บริการด้านสาธารณูปโภค และไฟฟ้าแก่ธุรกิจในเครือ WHA ที่กำลังขยายตัวก็จะเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตของบริษัทด้วย
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.07 น.ราคาหุ้น WHAUP อยู่ที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+1.94%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เคจีไอ ซื้อ 8.50 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 8.15 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 8.20 ทรีนิตี้ ซื้อ 9.00 นายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการของ WHAUP ในช่วงไตรมาส 4/60 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเติบโตทั้งธุรกิจให้บริการน้ำและพลังงานตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม ประกอบกับมีการทยอยเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ GTS-1 และ GTS-2 ในช่วงครึ่งปีหลัง "ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/60 ที่ผ่านมา กำไรเติบโตถึง 207.9% ซึ่งเป็นการเติบโตจากธุรกิจน้ำที่มีปริมาณขายและราคาขายเพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราคาดกำไรในปี 61 และ 62 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% เราจึงยังคงแนะนำให้ทยอยซื้อ" นายดนัย กล่าว ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯได้ปรับประมาณการกำไรของ WHAUP ในปีนี้ และปีหน้าขึ้น 26.3% และ 12.8% เป็น 2,154 ล้านบาท หรือเติบโต 122.5%YoY และ 2,487 ล้านบาท เติบโต 15.5% YoY ตามลำดับ จากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าที่ดีกว่าคาด และแม้การขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้า SPP ตามแผนจะเหลือเพียง GTS 4 กำลังการผลิต 31.3 เมกะวัตต์ในเดือน ม.ค.61 และโรงไฟฟ้า GNLL2 กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ในเดือน ม.ค.62 แต่เชื่อว่าบริษัทฯจะสามารถหาโครงการใหม่เพิ่มเติมระหว่างทางนี้ได้ จากความได้เปรียบที่มีลูกค้าในมือ (นิคมอุตสาหกรรมในเครือของ WHA) สร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจสาธารณูปโภคได้ นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับกลุ่ม GULF ในการลงทุนวางท่อเพื่อจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม Eastern Seaboard 2 และ 4 โดยคาดเริ่มจำหน่ายได้ในไตรมาส 3/61 ทั้งนี้ ได้ปรับราคาเหมาะสมของ WHAUP เป็น 8.20 บาท สะท้อนตามการปรับประมาณการกำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้า ด้วยภาพธุรกิจที่มั่นคง และสร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง ส่วน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า WHAUP คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้จะเติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 321% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าแบบ conventional นอกจากนี้ ในระยะสั้น WHAUP มองเห็นโอกาสที่จะทำโครงการ Solar roofs บนหลังคาโกดังสินค้าในเครือ และโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 150-200 เมกะวัตต์ขายตรงให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม โดยกระบวนการติดตั้งยังต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ในขณะเดียวกัน การให้บริการด้านสาธารณูปโภค และไฟฟ้าแก่ธุรกิจในเครือ WHA ที่กำลังขยายตัวก็จะเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตของบริษัทด้วย