นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสถานีบริการให้ได้อยู่ที่ 1,800 สถานี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งหมด 1,639 สาขาทั่วประเทศ และตั้งเป้าหมายของการจำหน่ายน้ำมันให้เพิ่มขึ้น 18-20% จากปีก่อน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีมียอดขายน้ำมัน 2,500 ล้านลิตร คาดว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้ 3,400 ล้านลิตร คงเป้าจำนวนบัตรสมาชิก PT Max Card ไว้ที่ 7.4 ล้านสมาชิก
ในขณะที่ EBITDA ในปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 25-30% จากปีก่อน ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงบริษัทฯ จะยังคงบริหารต้นทุนสินค้าให้ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด และควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตามนโยบาย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้างบลงทุนที่ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,500 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 1,000 ล้านบาท เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มขององค์กรในระยะยาว
“เรายังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำในการให้บริการในธุรกิจพลังงานครบวงจรของประเทศ ด้วยการเดินหน้าในการขยายเครือข่ายของธุรกิจที่เป็นทั้ง oil และ non-oil โดยธุรกิจ non-oil ในสถานีบริการที่จะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นในปีนี้ รวมถึงการเพิ่มพันธมิตรที่เข้ามาสนับสนุนเครือข่ายของธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และลดผลกระทบที่อาจเกิดจากการมีธุรกิจเดียว" นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/60 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 46.1% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157 ล้านบาท และมีรายได้รวม 19,677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,992 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้อยู่ที่ 15,685 ล้านบาท
การเติบโตของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้เกิดการปรับราคาขายปลีกของอุตสาหกรรมน้ำมันได้สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น รวมถึงราคาขายต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการขายรวมที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 799 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจนอนออยล์ซึ่งเติบโตมากถึง 93% จากปีที่แล้ว มาจากธุรกิจ LPG, ธุรกิจน้ำมันเครื่อง, ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจร้านกาแฟ ซึ่งกำไรขั้นต้นจากธุรกิจนอนออยล์ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าการตลาดที่ปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสะท้อนได้จากอัตรากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 1%
นายพิทักษ์ กล่าวถึงความร่วมมือกับ บริษัท สามมิตรมอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ในการเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงรถบรรทุกครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย (PRO TRUCK) ซึ่งมีสาขาแรกตั้งอยู่ภายในสถานีบริการ PT สีคิ้ว จ.นครราชสีมา คาดว่า PRO TRUCK จะสามารถขยายสาขาได้ถึง 20 สาขาในสิ้นปี 61 ซึ่งใช้งบลงทุนสาขาละ 7-10 ล้านบาท คาดจะทำรายได้ 450-500 ลบ. และคืนทุนภายใน 4 ปี ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 1 สาขาที่สีคิ้ว และมีแผนเปิด 3-4 สาขาภายในปีนี้ และตั้งเป้าขยายให้ครบ 100 สาขาภายใน 5 ปี
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว PT MAX CAMP ที่พักรถครบวงจรแห่งแรกในไทย ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาให้เป็นต้นแบบที่พักรถสำหรับคนขับรถบรรทุก รถขนส่ง และรถยนต์ โดยมีบริการ พัก-นอน-อาบน้ำ และเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่ลูกค้ามีบัตร PT MAX CARD ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย