นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้กำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อน งาน EPC โซล่าร์รูฟ และงานให้เช่าซื้อโครงการโซล่าร์รูฟ ซึ่งทำให้บริษัทฯมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนนำ บมจ. อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO เข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนได้ภายในกลางปี 61 ซึ่งจะทำให้ EPCO ในฐานะบริษัทแม่ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก EP หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของ EPCO ในไตรมาส 3/60 มีรายได้รวม 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.4 ล้านบาท หรือ 18.1 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 41.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.93 ล้านบาท หรือ 379 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้กำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลัง EP ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งทางตรงและทางอ้อม ของบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) ในสัดส่วน 49.5% และเข้าซื้อหุ้นสามัญทางอ้อมของบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ในสัดส่วน 40%
โดยทั้ง 2 บริษัท เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง และโอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว ทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในบริษัทฯในช่วงไตรมาส 3 (ยกเว้น 24.5 % ของ PPTC ซึ่งโอนหุ้นเมื่อ 28 ก.ย.60)
ปัจจุบันบริษัทดำเนินโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทย 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 24 เมกะวัตต์ โซล่าร์รูฟในประเทศ 6.5 เมกะวัตต์ และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 33 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง