นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/60 ที่อ่อนตัวลงเป็นเพียงผลในระยะสั้น และคาดวาจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 61
อนึ่ง ALT รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/60 ขาดทุนสุทธิ 5.9 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท
นางปรีญาภรณ์ กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนธุรกิจของบริษัทในระยะยาว โดยการมุ่งเน้นการสร้างสมดุลและเติบโตของรายได้และผลกำไรที่ยั่งยืน ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของกำไรที่มาจากรายได้ที่ต่อเนื่องให้เป็น 50% ของกำไรสุทธิรวมภายในปี 63 โดยการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม อาทิ การวางโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสงเพื่อให้เช่าแก่กลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคมทั้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ทั้งภายในประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าอย่างเชื่อมั่น โดยการวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับนโยบายเดินหน้าเศรษฐกิจของรัฐ คือ Digital Economy และ Thailand 4.0
“อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงไตรมาส 3 ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ตามการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เริ่มส่งผลในวงกว้าง ซึ่งบริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคตามการคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ซึ่งพิจารณาตัดสินใจด้วยความรอบคอบระมัดระวังอย่างยิ่ง ด้วยการเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจากการให้บริการหรือให้เช่าที่มีลักษณะเป็นรายได้ประจำที่ต่อเนื่องผูกพันเป็นสัญญาระยะยาว หากแต่ผลประกอบการในระยะสั้นบางช่วงเวลา อาจมีการชะลอตัวลงเนื่องจากรายได้โครงการให้เช่าเป็นช่วงของการเริ่มต้น ทำให้รายได้เข้ามาเสริมเติบโตไม่ทันต่อการหดตัวของกลุ่มรายได้จากธุรกิจขายสินค้าและให้บริการ" นางปรีญาภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปี 60 บริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 3 โครงการใหญ่ ประกอบด้วย 1.โครงการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงบนเสาโทรเลขตามแนวทางรถไฟทั่วประเทศ 2.โครงการวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (Hight Speed Fiber Optic) ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ที่จังหวัดปทุมธานี 3.โครงการนำสายสื่อสารลงท่อใต้ดิน
“โครงการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงบนเสาโทรเลขตามแนวทางรถไฟทั่วประเทศ จะเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปี 61และโครงการนำสายสื่อสารลงท่อใต้ดิน บนเส้นทางถนนพหลโยธิน-พญาไท พร้อมเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงต้นไตรมาส 1/61 ทำให้เราคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 61 จะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง อันเป็นผลมาจากการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และวางรากฐานเอาไว้เพื่อให้มีรายได้ที่สม่ำเสมอในระยะยาว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเห็นผลตอบแทนที่ดีได้ภายในทันที แต่ผลประกอบการจะเริ่มผลิดอกออกผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นการลดภาวะรายได้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ และลดการพึ่งพิงการลงทุนของ Operators แต่เพียงอย่างเดียว"นางปรีญาภรณ์ กล่าว