นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ธุรกิจน้ำมันของปตท.ในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษี (EBIT) ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 พันล้านบาทในปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งส่วนธุรกิจน้ำมัน (oil) และไม่ใช่น้ำมัน (non-oil)
สำหรับธุรกิจนอนออยล์นั้น ตั้งเป้าหมายจะมีอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ที่ระดับ 30-35% ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปีนี้ที่คาดทำได้ 18% เพิ่มขึ้นจาก 12% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตจากการเพิ่มจำนวนสาขาของร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน โดยมีเป้าหมายในปีหน้าจะเพิ่มสาขาในประเทศอีก 300 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,900 แห่ง และจะเพิ่มสาขาต่างประเทศ 120 แห่งจากปัจจุบัน 130 แห่ง โดยจะเปิดสาขาที่โอมาน เซี่ยงไฮ้ และมาเลเซีย ซึ่งจะผลักดันให้ใน 5 ปีข้างหน้าจะมีสาขาในประเทศ 2,900 แห่ง และต่างประเทศ 500 แห่ง รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟให้มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้จะเพิ่มจำนวนแบรนด์สินค้าที่เป็น co-brand ให้มากขึ้น ราว 3-5 แบรนด์/ปี จากปัจจุบันที่มีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาอยู่ในสถานีบริการจำนวนหนึ่งแล้ว เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มในส่วนของสันทนาการเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากร้านอาหาร
ด้านนายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดขายปลีก ของ PTT กล่าวว่า สำหรับธุรกิจน้ำมันมีแผนที่จะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันใหม่ในปี 61 อีกราว 150 แห่ง แต่ก็จะมีการปิดสถานีบริการบางส่วนที่หมดสัญญาด้วย ทำให้คาดว่าจะมีสถานีบริการน้ำมันเปิดใหม่สุทธิราว 60-70 แห่งในปีหน้า จากราว 1,600 แห่งในปีนี้ ส่วนวงเงินที่จะใช้ในการลงทุนของธุรกิจน้ำมันนั้นยังต้องรอแผนลงทุน 5 ปีใหม่ของกลุ่มปตท.ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการในช่วงเดือนธ.ค.นี้
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันช่วงก่อนหน้าที่ปรับตัวขึ้น แต่ปตท.พยายามตรึงราคาขายปลีกไว้ แม้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับไม่ดีนักที่ราว 1.50 บาท/ลิตร ส่วนค่าการตลาดเบนซิน ยังอยู่ระดับที่เหมาะสม
ด้านความคืบหน้าการเลือกพันธมิตรสำหรับการเปิดธุรกิจโรงแรมในสถานีบริการน้ำมันนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
อนึ่ง วันนี้ปตท.ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านระบบ E-Commerce ในสถานีบริการน้ำมันปตท. ช่วยสนับสนุนให้ชุมชนสามารถกระจายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชน สินค้า OTOP และเอสเอ็มอี ข้ามภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงทั้งในและระหว่างประเทศ
นายอรรคพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ของ PTT กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ปตท.จะนำศักยภาพของเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันปตท.ที่ครอบคลุมทั่วประเทศเป็นจุดให้บริการจำหน่ายและกระจายสินค้าชุมชนทั้งในรูปแบบร้านค้าและระบบ E-Commerce โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยขยายตลาดเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ
รวมถึงพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็นจุดหมายที่ทุกคนต้องการเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการ เป็นศูนย์กลางของชุมชนตามแนวคิด PTT Living Community โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาและสรรหาสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละพื้นที่
การศึกษาความร่วมมือกับไปรษณีย์ครั้งนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อหาแนวทางรูปแบบความร่วมมือที่เหมาะสมระหว่างกัน จากปัจจุบันที่ไปรษณีย์เป็นเพียงผู้เช่าพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.เพื่อให้บริการทางด้านไปรษณีย์ซึ่งขณะนี้มีอยู่เพียง 6 สาขาเท่านั้น