บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เลือกให้เอคเซนเชอร์ (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ACN) เป็นพันธมิตรสนับสนุนการขยายกิจการในระดับโลก ด้วยการวางระบบ SAP S/4HANA 1610 ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มซอฟต์แวร์บริหารทรัพยากรขององค์กร (ERP) ชั้นนำ
ด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจของ TU บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่ระดับสากลด้วยการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) เน้นที่โรงงานผลิตและเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมแบรนด์ดัง อาทิ Chicken of the Sea, John West, King Oscar, Mareblu, Rugen Fisch และอีกมากมาย ซึ่งการนำระบบ SAP เข้ามาใช้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประสานระบบต่าง ๆ ของธุรกิจปัจจุบันและที่ควบรวม บริหารการเงินของฐานธุรกิจทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพ เข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ
การวางระบบ SAP S/4HANA โดยเอคเซนเชอร์ ช่วยให้ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรสำคัญ ๆ ของ TU มีมาตรฐานและเป็นอัตโนมัติในทุกภาคส่วนงานขององค์กร นับตั้งแต่ส่วนของโลจิสติกส์ การบริการลูกค้า ไปจนถึงด้านการตลาดและการเงิน การขาย ซัพพลายเชน และจัดซื้อ และจะนำไปใช้กับตลาดอื่นด้วย ทั้งในฝรั่งเศส กาน่า อิตาลี นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส เซเชลส์ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และในภูมิภาคอเมริกาเหนือ
การนำระบบ SAP เข้ามาใช้ ช่วยให้พนักงานของ TU ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ในเวลาที่เหมาะสมในระหว่างปฏิบัติงานและสามารถเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำได้อย่างรวดเร็ว แพล็ตฟอร์มใหม่จะช่วยให้ TU กระชับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ประหยัดต้นทุนการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น จัดระบบการจัดซื้อให้มีประสิทธิภาพ และเห็นประโยชน์จากการควบรวมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นายยอร์ก ไอร์เล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของ TU เผยว่า การควบรวมและเข้าซื้อกิจการจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ TU ในวงการธุรกิจอาหารทะเลระดับสากล เพราะเรามุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและนำเสนออาหารคุณภาพระดับโลกอย่างต่อเนื่อง การขยายกิจการในระดับโลกต้องใช้แพล็ตฟอร์มดิจิทัลที่ครบวงจรอย่างแท้จริง เพื่อให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และรู้ข้อมูลอินไซต์ได้แบบเรียลไทม์ เราเลือกเอคเซนเชอร์ให้เข้ามาสนับสนุนการทำพันธกิจนี้ให้บรรลุ เพราะมีเครือข่ายกว้างขวางทั่วโลก มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมครอบคลุมภูมิภาคต่าง ๆ ที่บริษัทเราดำเนินกิจการ
นางสาวสุปิยา พลกุล กรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อผู้บริโภค เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า เรามุ่งเน้นที่จะช่วยบริษัทต่าง ๆ ให้สามารถดำเนินธุรกิจแบบเรียลไทม์ ด้วยการนำเสนอขีดความสามารถในการทำงาน วิเคราะห์ คาดการณ์ได้อย่างฉับไว ให้พร้อมรับมือกับความผันผวนในโลกปัจจุบัน
การขยายธุรกิจของ TU ผ่านการควบรวมกิจการ ความสามารถในการวิเคราะห์ เข้าใจ และจัดลำดับความสำคัญเพื่อรับมือกับความซับซ้อนทางธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญ ผู้นำองค์กรต้องมองเห็นภาพรวมการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ โครงสร้างต้นทุนใหม่ และโมเดลการดำเนินงานของทั้งองค์กร ให้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อบริหารให้ผลประกอบการออกมาดีที่สุด การปรับไปสู่ระบบใหม่ครั้งนี้จะช่วยให้ TU มีความพร้อมสำหรับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สมกับเป็นองค์กรระดับโลกอย่างแท้จริง