นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า ในปี 61 ตั้งเป้ารายได้ที่ 13,000 ล้านบาท จากคาดการณ์ปี 60 อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท จากคาดผู้โดยสารเพิ่มเป็น 2.2 ล้านคน จากปีนี้ราว 1.6 ล้านคน และคาดอัตราขนส่งผู้โดยสารที่ราว 86% จากปีนี้ 89%
สำหรับปี 61 มองว่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญในการเติบโตของธุรกิจการบิน หลังจากที่ประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงเรียบร้อยแล้ว เพราะสายการบินต่างๆ มีแผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าแก่ผู้โดยสาร โดยไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะใช้กลยุทธ์การเพิ่มความถี่เที่ยวบิน เข้ามาเป็นจุดแข็ง รวมกับความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี จะทำให้เรายังคงเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางบินใหม่ ได้แก่ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ที่จะเปิดตัวในต้นปี 61
“ในปี 60 ที่ผ่านมาแม้ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะไม่ได้มีเปิดเส้นทางบินใหม่ แต่เราก็เพิ่มความถี่บินในเส้นทางยอดนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดการณ์ ณ สิ้นปี ขนส่งผู้โดยสารรวม 1.6 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยร้อยละ 89 และในปี 61 ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 2.2 ล้านคน และมีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยสูงร้อยละ 86 โดยมีแผนเตรียมรับเครื่องใหม่แอร์บัส เอ 330 เพิ่ม 4 ลำ เสริมความแข็งแกร่งตลาดเอเชียเหนือ ญี่ปุ่น เกาหลี ตอกย้ำเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง" นายนัตดา กล่าว
นายนัดดา คาดว่าในปี 61 จะเปิดจุดบินใหม่ 2-3 จุด ได้แก่ในญี่ปุ่น 2 เมืองที่ซับโปโร ที่เคยขออนุญาตทำการบิน คาดว่าจะทำการบินทุกวัน หรือ 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เริ่มในไตรมาส1/61 ส่วนอีกเมืองทางใต้ของญี่ปุ่นที่มองไว้ คือ โอกินาว่า ฟุกุโอกะ และ คุมาโมโตะ นอกจากนี้มองการเพิ่มจุดบินในจีนไว้ที่มีรัศมีการบินเกิน 4 ชม. อาทิ ปักกิ่ง เทียนจิน ต้าเหลียน ชิงเต่า เป็นต้น รวมทั้งศึกษาเพิ่มเส้นทางในเกาหลีด้วย
ส่วนจุดยินไปยังยุโรป ก็อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากแผนการบินเส้นทางดังกล่าวต้องมีความพร้อมสูง จึงต้องศึกษาให้มั่นใจก่อนเปิดบิน
นายนัดดา กล่าวว่า ในปี 61 จะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ300-330 จำนวน 4 ลำ โดย 2 ลำแรกรับมอบในไตรมาส 1/61 รองรับจุดบินใหม่ที่ซับโปโร และเส้นทางที่เพิ่มความถี่ โดยในเดือน พ.ย.60 จะเพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพ-โซล เป็นวันละ 3 เที่ยวบิน กรุงเทพ-นาริตะ เพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน และในเดือน ธ.ค.60 จะเพิ่มความถี่ไปโอซาก้าเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน
ส่วนอีก 2 ลำ จะรับมอบในไตรมาส 3-4 /61 เพื่อรองรับจุดบินใหม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนเครื่องบิน แอร์บัส เอ 300-330 จำนวน 6 ลำ และสิ้นปี 61 จะเพิ่มเป็น 10 ลำ
นายนัดดา กล่าวว่าภาพรวมปีหน้าคาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมสายการบินจะสนุกมากขึ้น แต่เชื่อว่าจะยังมีการตัดราคาในช่วงต้น ขณะที่ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ก็มีจุดแข็งที่เชื่อมต่อกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย
ขณะที่ในปีหน้าไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จะเข้าไปทำการตลาดในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น จากปีนี้เน้นการทำการตลาดทีเกาหลี ทำให้แบรนด์แอร์เอเชียเอ็กซ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งนี้ สัดส่วนผู้โดยสารส่วนใหญ่ 60% เป็นคนไทย เกาหลี 20% ญี่ปุ่น 15% และจีน 5%
นายนัดดา กล่าวว่า ล่าสุดได้เปิดตัวกลยุทธ์ พร้อมแคมเปญโฆษณาออนไลน์ แนวคิด 3-2-2-1 ที่ตอกย้ำความพร้อมเป็นผู้ให้บริการบินประหยัดสู่เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลา เช้า สาย บ่าย ดึก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางของทุกคน เริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. นี้ ซึ่งนอกจากนี้ในโฆษณาตอนท้ายยังปล่อยทีเซอร์ถึงเส้นทางบินใหม่ตามคำเรียกร้องที่คาดว่าจะเปิดตัวได้ในต้นปีหน้า
อนึ่ง ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) ตอกย้ำความเป็นผู้นำสายการบินราคาประหยัดระยะไกลในไทย พร้อมรับปี 61 ด้วยความถี่เที่ยวบินที่เหนือกว่า เผยกลยุทธ์ “3-2-2-1 เช้า สาย บ่าย ดึก" มาจากความถี่เที่ยวบินในเส้นทางต่างๆ โดยบินตรงจากกรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานดอนเมือง) สู่โซล ประเทศเกาหลี 3 เที่ยวบินต่อวัน สู่โตเกียว 2 เที่ยวบินต่อวัน สู่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 2 เที่ยวบินต่อวัน และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน 1 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งตอบโจทย์การเดินทางสะดวกที่เลือกได้ทุกช่วงเวลา เช้า สาย บ่าย ดึกของผู้ใช้บริการ