นางสาวพรรณพร ศาสนนันทน์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ในปี 61 บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 5,500 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต และลงทุนต่อเนื่องในโครงการเดิม ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีแผนลงทุนในโครงการใหม่
ส่วนแผนลงทุนในโครงการ Beyond Everest คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในช่วงปลายไตรมาส 1/61 ถึงไตรมาส 2/61 เนื่องจากต้องรอสรุปผลและรอรายละเอียดโครงการย่อยที่จะดำเนินการภายใต้โครงการนี้
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้โครงการต่างๆ ที่ลงทุนและดำเนินการไปในปีนี้ ได้แก่ โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าต่ำ อาทิ น้ำมันเตา ใช้งบลงทุนไปประมาณ 4,900 ล้านบาท และดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 60 คาดจะสามารถเพิ่มกำไรขั้นต้นได้ราว 1.5-2 เหรียญต่อบาเรล
รวมทั้ง โครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิต PPE และ PPC อีก 300,000 ตันต่อปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 770,000 ตันต่อปี ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรจากการขายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเปิดโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์ ซึ่งร่วมลงทุนกับ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) คาดว่าจะช่วยสร้างกำไรให้กับบริษัทประมาณปีละ 400-500 ล้านบาท โดย IRPC จะเข้าไปถือหุ้น 49%
นางสาวพรรณพร กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปีหน้ามีโอกาสปรับตัวขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC (Non OPEC) จะมีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีก จากเดิมที่คาดว่าจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.62
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/60 ปรับตัวดีขึ้น โดยค่าการกลั่นเฉลี่ย (Market GIM) เท่ากับ 9,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและ 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากราคาสต๊อคน้ำมัน (Accounting GIM) เท่ากับ 9,974 ล้านบาท เติบโตขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 3,248 ล้านบาท เติบโตขึ้น 164% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 149% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว