SKE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 2.28 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 26.67%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 22, 2017 12:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น SKE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 2.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.48 บาท (+26.67%)จากราคาขาย IPO ที่ 1.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 760.19 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.40 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.46 บาท และราคาทำระดับต่ำสุด 2.24 บาท

นายชัชชัย สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) กล่าวว่า ยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น SKE ได้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก และเชื่อมั่นว่าหุ้น SKE จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย

โดยบริษัทฯได้วางแผนที่จะปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานสำหรับสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชนให้ครบวงจร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสูบอัดและจ่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) เพื่อรักษายอดปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติ และเตรียมความพร้อมในการรองรับปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติในอนาคต โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพสมรรถนะการทำงานของระบบสูบอัดและจ่ายก๊าซธรรมชาติ เพื่อเพิ่มคุณภาพ และลดต้นทุน อาทิ โครงการเพิ่มจำนวนช่องจ่ายก๊าซธรรมชาติ NGV (Trailer Bay) ที่สาขาบ้านนา-แก่งคอย จังหวัดสระบุรี จากเดิมจำนวน 12 ช่องจ่าย เป็นจำนวน 20 ช่องจ่าย ในวงเงิน 15 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 4 ปี 2560 และจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2561

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger System) โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน โครงการปรับปรุงระบบ Pipeline ท่อก๊าซธรรมชาติและระบบควบคุมภายในสถานี และโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรในการสูบอัดก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKE กล่าวว่า บริษัทฯยังมีแผนที่จะลงทุน โครงการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NVG ตามแนวท่อ (Conventional Station) แบบ Ex pipeline เป็นการจัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV ตามแนวท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ สามารถจัดหาก๊าซธรรมชาติได้ตลอดเวลา ซึ่งจำหน่ายให้กับผู้ใช้บริการ เช่น รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และรถบัสขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งต่างจากสถานีบริการลูก (Daughter Station) ที่ต้องรับก๊าซธรรมชาติจากรถขนส่งก๊าซ ทำให้บางช่วงเวลาอาจเกิดปัญหาขนส่งก๊าซไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทฯ คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2562

สำหรับผลประกอบการในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทฯมีรายได้ 247 ล้านบาท ลดลงจากรายได้ 313 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2559 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาทในปี 2560 ในงวด 9 เดือนของปีนี้ ลดลงจาก กำไรสุทธิ 99 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2559 เนื่องจากรายได้ในส่วนการปรับปรุงคุณภาพลดลง จากการที่บมจ.ปตท.(PTT) มีนโยบายปรับค่าพลังงานความร้อน (Wobbe Index) สูงขึ้น ทั้งนี้ระดับค่าพลังงานความร้อนที่เหมาะสมกับรถยนต์อยู่ในช่วงระหว่าง 37 ถึง 42 เมกะจูลต่อลูกบาศก์เมตร

ถึงแม้ว่าบริษัทฯจะมีรายได้ลดลง เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2559 แต่บริษัทฯ ยังคงมีรายได้สม่ำเสมอและรักษาปริมาณการอัดก๊าซธรรมชาติขั้นต่ำตามสัญญาธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชนที่ทำกับ ปตท. ประกอบกับ บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแนวทางที่จะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคงได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ