นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 8-10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่เกือบ 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ศูนย์ผู้มีบุตรยากเต็มปี หลังจากที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
ประกอบกับทางโรงพยาบาลจะปรับเพิ่มราคาห้องพักที่ปรับปรุงใหม่เพิ่มขึ้นในปีหน้าอีก 10% จากปัจจุบันอัตราค่าห้องพักและค่ารักษาพยาบาลเฉลี่ยอยู่ที่ 12,000-13,000 บาท/วัน/บิล
บริษัทตั้งบลงทุนในปี 61 ราว 300 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการสร้างศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ สูง 5 ชั้น พื้นที่ 7,200 ตารางเมตร จำนวนห้องพัก 50-60 ห้อง โดยใช้งบลงทุนราว 260 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนปรับปรุงห้องพักผู้ป่วยอยู่ที่ 20 ล้านบาท และตั้งศูนย์ไตเทียม 20 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนมาจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่มีอยู่ 500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนก่อสร้างศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 62 จะเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในปี 62 คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่า 50% หรือมีรายได้ราว 800-900 ล้านบาท เนื่องจากโรงพยาบาลมีจำนวนห้องพักรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 50-60 ห้อง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 88 ห้อง ซึ่งมีผู้ป่วยใช้บริการเฉลี่ยเกือบ 80-90%
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะลงทุนตั้งศูนย์เลสิก เพื่อขยายการบริการทางการแพทย์ให้เพิ่มขึ้น แต่คงต้องปรึกษาทีมแพทย์เกี่ยวกับความพร้อมก่อน เพราะจำเป็นต้องใช้ทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพิ่มขึ้นและต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีคุณภาพเข้ามารองรับการให้บริการ คาดว่าต้องใช้เงินลงทุนราว 20-30 ล้านบาท
ด้านแนวคิดการตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันแม้ว่าสังคมไทยจะมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปมากขึ้น แต่ยังไม่ถือเป็นภาระทางสังคมมากนัก ต้องดูในระยะยาวอีก 5 ปี หากมีแนวโน้มที่จะเป็นภาระมากขึ้นก็มีโอกาสที่บริษัทจะจัดตั้งศูนย์ดูแลเฉพาะทาง และอาจร่วมกับพันธมิตรพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EKH เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครด้วย
ส่วนการขยายศูนย์ผู้มีบุตรยากของโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการมองหาทำเลจัดตั้งในย่านรัชดาฯ เพื่อที่จะเข้ามารองรับชาวจีนที่นิยมเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในไทย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาโรงพยาบาลที่อยู่นอกเมือง และเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าชาวจีนเพิ่มขึ้นด้วย
นายแพทย์อำนาจ กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 60 มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ของธุรกิจ มีอัตราการครองเตียง (Utilization Rate) สำหรับผู้ป่วยใน (IPD) อยู่ในระดับสูง ส่วนทั้งปี 60 บริษัทยังคงคาดว่ารายได้จะเติบโต 7% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 511.98 ล้านบาท
ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้ โรงพยาบาลเริ่มเปิดบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยาก เพื่อรองรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศและจีน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรจากประเทศดังกล่าวให้การแนะนำลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องและจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการในอนาคตของบริษัทเติบโตในทิศทางที่ดี สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้น
“โรงพยาบาลเอกชัยมีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในเรื่องศูนย์แม่และเด็กอยู่แล้ว จึงเห็นโอกาสในการขยายศูนย์เฉพาะทางมากขึ้น พฤศจิกายนนี้ก็เริ่มให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีบุตรยากแล้วและด้วยความพร้อมของบุคลากร เครื่องมือที่มีความทันสมัย เทคโนโลยีไม่ได้ด้อย ประกอบกับการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งแนะนำลูกค้าเข้ามาใช้บริการ"นายแพทย์อำนาจ กล่าว