นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) กล่าวว่า แนวโน้มผลงานในช่วงไตรมาส 4/60 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/60 เนื่องจากเป็นช่วง High season ที่ผู้ใช้บริการจะเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากโรคที่มากับฤดูหนาว ซึ่งในปีนี้ฤดูหนาวมาค่อนข้างเร็วต่อเนื่องจากฤดูฝน ทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคตามฤดูกาลมาใช้บริการสูง
ประกอบกับปัจจุบันมีผู้ประกันตนจำนวน 1.61 แสนคน จะเริ่มรับอานิสงส์บวกจากการขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวของโครงการประกันสังคมจากเดิมปีละ 1,460 บาทต่อคน เป็น 1,500 บาทต่อคน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค.60 ที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตได้ต่อเนื่อง
รวมทั้งการมุ่งเน้นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และรายได้จากการบริการที่มีรายได้สูงขึ้นตามผลดำเนินการที่ผ่านมา โดยคาดว่าปี 60 นี้ รายได้รวมจะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านการก่อสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และโครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คาดว่าจะก่อสร้างได้กลางปี 2561 มูลค่าลงทุนรวม 800 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนโรงพยาบาล 600 ล้านบาท โครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 200 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/60 บริษัทมีรายได้รวมประมาณ 388.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 9.63% โดยมีรายได้การรักษาพยาบาลประมาณ 340.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็น 20.08% และรายได้จากการบริการประมาณ 37.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 29.87% และมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 10.41% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 46.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.35% จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 43.64 ล้านบาท
"ผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจโรงพยาบาล เพราะมีการระบาดของโรคที่มากับช่วงหน้าฝนที่มาเร็วในปีนี้ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ และมือเท้าปาก และจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มคนไข้ประกันสังคม และบริษัทย่อย AMARC ทำกำไรมากขึ้น"นายอังกูร กล่าว
ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 60 บริษัทมีรายได้รวมประมาณ 1,102.01ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิกว่า 127.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 123.65 ล้านบาท โดยมีรายได้การรักษาพยาบาลประมาณ 961.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.27% มาจากรายได้จากผู้ป่วยชำระเงินประมาณ 513.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.91% ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ที่มีอยู่ 5 ศูนย์ มีผู้ใช้บริการส่วนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 16.56% เป็นรายได้โตกว่า 39.27% และจากประกันสังคมมีรายได้ประมาณ 449.36 ล้านบาท คิดเป็น 1.45% และมีรายได้จากการบริการประมาณ 105.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 20.68% จากงวดเดียวกันของปีก่อน