นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 61 มากกว่า 1.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ราว 1.6 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการขยายตลาดไปยังประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมไปถึงสหภาพยุโรป ส่วนอีก 300 ล้านบาท จะมาจากการผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ COSTA โดยบริษัทฯยังคงเร่งเพิ่มฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1,000 ราย
บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ราว 40-50 ล้านบาทเพื่อที่จะใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถผลิตได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตในอัตราสูงถึง 80-90% แล้ว
ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทฯจะบันทึกส่วนแบ่งกำไรเข้ามาจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลขนาด 7.5 เมกะวัตต์ (MW) จ.นราธิวาส ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส 3/60 ที่ผ่านมา จำนวน 6.7 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ จ.แพร่ คาดว่าจะ COD ในเดือน ม.ค. 61 และ ก.พ. 61 ตามลำดับ
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ ประเทศเมียนมา ขณะนี้เริ่มก่อสร้างเฟสแรกแล้ว คาดว่าจะเริ่ม COD กลางปี 61
"มั่นใจว่าแผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าจะช่วยส่งเสริมและสร้างการเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทฯต่อไปในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 4-5 โครงการ กำลังการผลิตรวมราว 40-50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/61"นายอารักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/61 บริษัทฯเตรียมสรุปแผนการร่วมลงทุนในโครงการผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ Wood Based Panel ได้แก่ แผ่นเอ็มดีเอฟ (MDF Board) และแผ่นปาร์ติเกิ้ล (Particleboard) หลังจากที่ได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ บริษัท แพลนเนทบอร์ด จำกัด เพื่อเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว กำลังการผลิต 600-800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมก่อสร้างทันที โดยบริษัทฯจะนำสินค้ามาใช้เองในบริษัทฯ 30% ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายไปยังโรงงานอื่นๆ
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายได้ปีนี้มั่นใจว่าจะมากกว่าปีก่อน หลังจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้แล้ว 1,080.70 ล้านบาท หรือเติบโต 7.27% โดยในช่วงปลายปีธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีความคึกคักมากขึ้น อีกทั้งรับอานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค.60 วงเงิน 15,000 บาทที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ในการซ่อมแซมบ้านเรือน เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุน ส่งผลให้ยอดสั่งซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น