นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ (MEGA) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งป้ารายได้ปี 61 จะเติบโต 8-12% จากปีนี้ โดยบริษัทฯเชื่อว่ายอดขายในทุกๆประเทศจะมีการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม และเยเมน โดยรายได้หลักส่วนใหญ่ยังมาจากต่างประเทศอยู่ 70-80%
นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นการขยายตลาดไปยังกลุ่มทวีปแอฟริกามากขึ้นด้วย โดยจะเน้นเจาะตลาดแอฟริกาตะวันออกและตะวันตก พร้อมกันนี้บริษัทฯเตรียมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 8-12 ผลิตภัณฑ์
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯยังคงรักษาไว้ที่ระดับ 42-44% ใกล้เคียงระดับปัจจุบันที่ 44.3% โดยการรักษาให้อยู่ในระดับสูงได้มาจากที่บริษัทฯได้เน้นการขายสินค้า Mega We Care ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัทฯที่ให้มาร์จิ้นสูง
ส่วนการร่วมทุนกับ บมจ.มาลี กรุ๊ป (MALEE) จัดตั้งบริษัท เมก้า มาลี จำกัด โดย MEGA ถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและวิจัยสินค้า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปลายไตรมาส 2/61 ล่าช้าจากแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มผลิตออกมาจากวางจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 1/61 เนื่องจากการวิจัยและพัฒนาสินค้า รวมถึงการขออนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) มีความล่าช้าออกไปเล็กน้อย
ทั้งนี้ ในปี 61 บริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 100-150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทฯใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60-70% ของกำลังการผลิต ซึ่งยังรองรับการเติบโตได้อีกมาก
นายวิเวก กล่าวถึงศูนย์ดูแลรักษาสุภาพ (Wellness Care) ว่า ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว 15 ห้อง ซึ่งเป็นช่วงของการทดลอง โดยภายใน 1-2 ปีนี้จะเป็นช่วงของการทำความเข้าใจกับผู้บริโภคให้มากขึ้น และในปี 62 บริษัทฯจะเริ่มพิจารณาถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงแผนการขยายสาขาไปทั้งในและต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมองหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปในกลุ่มทวีปแอฟริกา เพื่อที่จะขยายกิจการของบริษัทฯให้ครอบคลุม และเป็นการขยายพื้นที่การขายไปยังตลาดใหม่ๆ เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต