นายอนันต์ มนัสชินอภิสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น งวดปี 60/61 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 61) ไว้ราว 13-15% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4-5% โดยเป็นการตั้งเป้าจากภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมเหล็ก และมองว่าผลประกอบการของบริษัทฯจะดีได้ตามเป้าจากอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง
ปัจจุบันกำลังการผลิตมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อีกทั้งบริษัทมีแนวทางที่เน้นการทำกำไรจากการลดต้นทุนลง และการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัทฯที่ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่แนวโน้มฐานลูกค้าเก่าก็ไม่ได้ลดลง แม้ว่าลูกค้าใหม่อาจจะเข้ามายังไม่มากนัก แต่บริษัทมีแนวทางแก้ปัญหาโดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ประเภททองแดง ทองเหลือง และอลูมิเนียม รวมถึงชักชวนลูกค้ากลุ่มแสตนเลสสตีลให้ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วย
ทั้งนี้ โดยปกติบริษัทมีงบลงทุนราว 50 ล้านบาทต่อปี ในการลงทุนเครื่องจักร และปรับปรุงเครื่องจักรเก่า เพื่อให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น นายอนันต์ กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจาก 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่มองว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามา และลูกค้าในกลุ่มยานยนต์หลายรายเริ่มหันไปลงทุนใน EEC แล้ว รวมทั้งธุรกิจของกลุ่มลูกค้าหลักมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 ปีนี้
นอกจากนี้ LHK อยู่ในอันดับที่ 8 จากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จัดอันดับ Dividend Universe เพื่อเสนอทางเลือกการลงทุนระยะยาวให้แก่นักลงทุน โดยพิจารณาจาก 1.ความสามารถในการทำกำไร 2.ความอยู่รอดของกิจการ 3.การจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น และ 4.บรรษัทภิบาล