นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) คาดว่า รายได้ในปี 61 จะเติบโตราว 20-30% ตามการรับรู้กำลังผลิตไฟฟ้าเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีโรงไฟฟ้าพลังงานลม"หนุมาน"กำลังผลิต 260 เมกะวัตต์ (MW) จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) พร้อมตั้งงบลงทุนราว 1.5-2 หมื่นล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน และตั้งโรงงานแบตเตอรี่เฟสแรก
อนึ่ง บริษัทมีแผนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ (Energy Storage) เฟส 1 กำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวมทุกเฟส 1 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมก่อนเริ่มก่อสร้าง ทั้งนี้ คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 62 ส่วนเฟส 2 กำลังการผลิต 49 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) อยู่ระหว่างการเตรียมการร่วมกับพันธมิตร
“ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เราได้ออกแบบโรงงานแบตเตอรี่ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภายหลังจากได้ข้อสรุปเรื่องที่ตั้งโรงงานแล้ว ก็จะเตรียมการก่อสร้างต่อไป โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 62 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน ที่จังหวัดชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างเสร็จและ COD ในปลายปี 61 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของบริษัทเท่ากับ 664 เมกะวัตต์"นายอมร กล่าว
ส่วนผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิที่ 1,945 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5,612 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 126 เมกะวัตต์ที่ได้ COD จนครบแล้วในช่วงไตรมาส 2/60
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4/60 คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีกว่าช่วงไตรมาสอื่นๆ ของปี เนื่องจากปริมาณฝนที่ลดลง ประกอบกับอุณหภูมิลดต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ รวมถึงในช่วงปลายปียังมีกำลังลมมากกว่าในช่วงงอื่นๆของปี ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตดีกว่าช่วงที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้ผลประกอบการของทั้งปี 60 สามารถเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ที่ 27%