นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมในปี 61 ใกล้เคียงกับปีนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมียอดโอนที่ดินเกิน 20 เฮกตาร์ใกล้เคียงกับปีนี้ ขณะที่ยอดขายพรีเซลล์อาจไม่สูงเท่าปีนี้เพราะขึ้นอยู่กับการพัฒนาพื้นที่ในเฟสใหม่ด้วย
ทั้งนี้ ในปี 60 บริษัทฯสามารถทำยอดขายและยอดโอนที่ดินรวมทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 20 เฮกตาร์ โดยปัจจุบันมียอดพรีเซลไปแล้ว 27 เฮกตาร์ คาดว่าจะเป็นยอดโอนราว 23-24 เฮกตาร์ และในไตรมาส 4/60 เชื่อว่าจะมีการบันทึกยอดพรีเซลเพิ่มขึ้นอีก คาดว่ายอดรวมถึง 30 เฮกตาร์ เป็นยอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า
สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเบียนหัวใกล้ปิดโครงการแล้ว จากพื้นที่รวมกว่า 700 เฮกตาร์ คาดว่าจะสามารถขายได้ทั้งหมดไม่เกินปี 62 ส่วนนิคมฯ ลองถั่น มีพื้นที่ 1,270 เฮกตาร์ ซึ่งได้รับใบอนุญาตในการพัฒนาพื้นที่ครบแล้ว คาดว่าจะเริ่มขายในปี 61 วางเป้ายอดขายพรีเซลล์ราว 15 เฮกตาร์ และมีราคาขายสูงกว่าที่เบียนหัว เพราะมีทำเลที่ดีกว่า แต่อัตรากำไร (มาร์จิ้น) อาจไม่สูงเท่าเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่า
ขณะที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมในฮาลองที่มีพื้นที่รวมกว่า 5,789 เฮกตาร์ เฟสแรกจะมีพื้นที่ประมาณ 700 เฮกตาร์ คาดว่าภายในปีนี้สามารถได้ใบอนุญาต Investment Certificate เพื่อเริ่มก่อสร้างและพัฒนาเฟสแรกได้ ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังเร่งขอใบอนุญาตที่จะกำหนดให้พื้นที่ในครอบครองทั้งหมดเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Economic Zone) เพื่อจะได้มีแรงจูงใจในการซื้อ-ขายที่ดินจากกลุ่มลูกค้าได้สูงสุด
นายณัทธร กล่าวว่า มองว่าแนวโน้มนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามยังสดใส เนื่องจากยังมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ เช่น ค่าแรงงานที่มีราคาถูกกว่าไทยราวครึ่งหนึ่ง คุณภาพแรงงานอยู่ในระดับที่ดี และได้มีมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากรัฐบาลเวียดนามอย่างต่อเนื่อง