UV บวก 2.48% หลังให้บริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้น 80% ใน"อะเฮดออล"/โบรกฯมองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่าบวกทั้งหมด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 28, 2017 10:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น UV ราคาขยับขึ้น 2.48% มาอยู่ที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 100.38 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. โดยเปิดตลาดที่ 12.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.40 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.90 บาท

บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) อนุมัติในหลักการตามที่คณะกรรมการบริหารของบริษัทเมื่อวันที่ 31 ต.ค.60 อนุมัติให้บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท อะเฮดออล จำกัด (AheadAll) จำนวน 4 แสนหุ้น คิดเป็น 80% ในราคาซื้อขายทั้งสิ้น 81.28 ล้านบาท จากบริษัท เอราวัณ จังค์ชั่น จำกัด ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยหลังการซื้อหุ้นครั้งนี้จะทำให้ AheadAll เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท

สำหรับ AheadAll ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งระบบควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบความปลอดภัย เป็นไปตามนโยายการขยายการลงทุนของบริษัท ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ AheadAll จะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมการทำธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเราะห์ฯว่า ไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับ UV แต่ Base จากมูลค่าและเป้าหมายของบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ในปี 2561 ที่ 12.00 บาท/หุ้น และผลประกอบการกำไรสุทธิของ GOLD ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของกำไรสุทธิของ UV มองว่าราคาของ UV ในวันนี้ยังไม่สะท้อนมูลค่าบวกทั้งหมด และหากใช้ Market Capital ของเป้า GOLD ที่ 28,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะเห็นมูลค่าขั้นต่ำของ UV ในปี 2561 ที่ประมาณ +14.60 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ UV เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 2 ของ GOLD ทีประมาณ 39.2% ดังนั้นจากการเติบโตของ GOLD ที่โดดเด่นมาไม่น้อยกว่า 4 ปี ด้วยฐานกำไรที่ทำ New Record High ได้ต่อเนื่อง ทำให้มองว่า UV เองมีความน่าสนใจจากความเป็นแม่ของ GOLD เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมากำไรสุทธิของ UV ประมาณ 2 ใน 3 มาจากส่วนกำไรของ GOLD ดังนั้น ในปี 2561 ที่คาดการเติบโตของ GOLD จะต่อเนื่อง +30% YoY คาดจะทำให้ UV เติบโตต่อเช่นกัน

ขณะที่ในธุรกิจส่วนที่เหลือ 2 ส่วนหลักมีสังกะสีที่ยังเด่นขณะที่จุดอ่อนคือ คอนโดมิเนียม ซึ่งมองว่ายังต้องเน้นการระบาย Inventory ที่มีอยู่ในมือออกไปไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้เชื่อว่าในปี 2561 UV จะมีแผนในการขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยศักยภาพ เงินทุน และผู้ถือหุ้น สามารถช่วยหนุนได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ