นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 คาดว่ายังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 3/60 จากธุรกิจซ่อมเรือที่ยังเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของภาคส่งออก ทำให้ปริมาณการซ่อมเรือเพื่อการขนส่งทางการค้าเพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้จากงานโครงการต่อเรือที่จะส่งมอบทั้งหมดในปีนี้ โดยในช่วงปลายปี บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานต่อเรือ คิดเป็นมูลค่าโครงการ 150-170 ล้านบาท แม้ว่าการแข่งขันจะสูงขึ้น แต่บริษัทมีความพร้อมทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการต่อเรือหลากหลายประเภท จากผลงานที่ผ่านมาทำให้มั่นใจว่าจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ด้านอู่ต่อเรือที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยรับรู้รายได้งานซ่อมเรือเข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงสร้างฐานลูกค้าทั้งเรือซ่อม และงานโครงการต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้โตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 61
ในส่วนของการวิจัยและพัฒนาสินค้า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้นั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากโดยมีการนำเทคโนโลยีการทำความสะอาดตัวเรือ ด้วยระบบฉีดน้ำแรงดันสูง (Ultra High Pressure Blasting) จากเดิมใช้ทรายพ่น มาเริ่มใช้งานในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าแรงและส่งมอบงานเรือได้เร็วขึ้นและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ในปีนี้ บริษัทได้มองหาโอกาสทางธุรกิจจากงานด้านวิศวกรรมโครงสร้างเหล็กต่าง ๆ เช่นโครงการก่อสร้างรั้วมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า หรืองานโครงการอื่น ๆ เพื่อเป็นการขยายฐานรายได้จากธุรกิจหลัก ขณะเดียวกันจะได้ใช้ประโยชน์จากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญงานโครงสร้างเหล็กได้อย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาบริษัทเคยมีผลงานจากงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิเฟสแรก และมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลงานจากผู้รับเหมาช่วง เพื่อทำงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิในเฟสที่ 2 ที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการในเร็ววันนี้ด้วย