นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้น บมจ. วินท์คอม เทคโนโลยี (VCOM) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรพัย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอหุ้นที่ออกใหม่และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ
VCOM เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยี ด้านคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ ออราเคิล (Oracle ), ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ( Hitachi Data Systems ), พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ (Palo Alto Networks), อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ (Arista Networks), อินโฟบล็อกซ์ (Infoblox), อินฟอร์เมติก้า (Informatica) และ สปลังค์ (Splunk) ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ในรูปแบบลักษณะการขายแบบโซลูชั่น อาทิ คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ ระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย ระบบฐานข้อมูล ระบบปฏิบัติการ ระบบเสมือน มิดเดิ้ลแวร์ ซอฟต์แวร์พัฒนาระบบ และซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการข้อมูล
รวมถึงการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริการติดตั้งระบบ บริการบำรุงรักษาระบบทั้งแบบป้องกัน และแบบแก้ไข และบริการงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เช่น การปรับปรุงหรือโอนย้ายฐานข้อมูล การโอนย้ายระบบงาน การปรับค่าตัวแปรต่างๆ ของระบบ เป็นต้น
ปัจจุบัน VCOM มีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัทชั้นนำ หรือแม้แต่ภาครัฐเองก็ตาม โดยผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง ปี 57 มีรายได้ 743 ล้านบาท กำไรสุทธิ 45 ล้านบาท , ปี 58 มีรายได้ 816 ล้านบาท กำไรสุทธิ 41 ล้านบาท , ปี 59 มีรายได้ 949 ล้านบาท กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 41 ล้านบาท)
และงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้ 1,119 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 44 ล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนรายได้ปี 59 และงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มาจากการจำหน่ายสินค้า ประมาณ 75% และอีก 25% มาจากรายได้การให้บริการ
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ VCOM กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางในการสร้างโอกาสการลงทุน และต่อยอดธุรกิจในอนาคต เพราะเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเฉพาะการขยายงานขายโครงการใหญ่ทั้งในประเทศและประเทศในกลุ่ม CLM หรือ กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งมองว่าเป็นประเทศอยู่ในช่วงของการพัฒนาเศรษฐกิจ ความต้องการสินค้าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จึงมีความต้องการใช้สูง
สำหรับจุดแข็ง ของ VCOM นอกเหนือจากที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Distributor) และการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Vendor) 7 รายใหญ่ระดับโลกแล้ว บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจาก กลุ่มลูกค้าระดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผู้รวบรวมระบบงาน (system integrators) และผู้ใช้งานทั่วไป (end users) ประเภทองค์กรขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากธุรกิจข้างต้นแล้ว บริษัทฯยังมีบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี (เมียนมาร์) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการในประเทศเมียนมาร์ และบริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานบริการหลังการขายผ่านการให้บริการของศูนย์บริการทั้ง 13 แห่ง
“เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง และความครบวงจรของธุรกิจ เมื่อเดือน ส.ค.59 บริษัทฯได้ร่วมทุนกับบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (VST ECS) (ชื่อเดิม คือ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) จัดตั้ง บริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดย VCOM ถือหุ้น 51% และ VST ECS ถือหุ้น 49% เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอที ไปจนถึงบริการ Call Center บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการทั่วประเทศ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง ทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายย่อย ซึ่งธุรกิจการให้บริการดังกล่าวจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ VCOM อีกธุรกิจหนึ่ง" นางทรงศรี กล่าว