นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในต่างประเทศ 3 โครงการว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำ“ปากแบง" สปป.ลาว กระบวนการรับฟังความคิดเห็นโดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อเริ่มเจรจาค่าไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)" ในอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจแหล่งไอน้ำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันปริมาณไอน้ำสำหรับโรงไฟฟ้า หน่วยที่ 3 และการเจรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าถ่านหิน“กวางจิ"ในเวียดนาม อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มเจรจาสัญญาหลักต่างๆ เช่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม สัญญาเช่าที่ดิน สัญญาสัมปทานและสัญญารับประกันกับรัฐบาลเวียดนาม
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เติบโตต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ 10,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,528 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,517 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 672 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24% เนื่องมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการแข็งค่าของเงินบาท
ในช่วงไตรมาส 3/60 จนถึงปัจจุบัน EGCO มีความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า “คลองหลวง" จ.ปทุมธานี ซึ่งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.60 นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า “บ้านโป่ง" จ.ราชบุรี ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.60 ซึ่งจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป
สำหรับความสำเร็จด้านการลงทุนในต่างประเทศ EGCO บรรลุข้อตกลงในการร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1" สปป.ลาว โดยได้ลงนามสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท น้ำเทิน 1 เพาเวอร์ จำกัด กับบริษัท พอนสัก กรุ๊ป จำกัด และบริษัท อีดีแอล เจเนอเรชั่น จำกัด พร้อมกันนี้ บริษัท น้ำเทิน 1 เพาเวอร์ จำกัด ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.จำนวน 514.30 เมกะวัตต์ และกับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว จำนวน 130 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัท สตาร์ เอนเนอร์ยี่ จีโอเทอร์มอล (ซาลัก-ดาราจัท) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอ็กโก กรุ๊ป (ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 20.07%) กลุ่มบริษัท สตาร์ เอนเนอร์ยี่ และกลุ่มบริษัทเอซี เอนเนอร์ยี่ ได้ซื้อหุ้นเพิ่ม 4.75% ในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “ดาราจัท หน่วยที่ 2 และ 3" ในประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 99.75% ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ทำให้สามารถรับรู้รายได้เพิ่มทันที