นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 10-20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้แตะระดับ 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน โดยรายได้ที่เติบโตในปีหน้าเป็นผลจากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ 380 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 150 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 230 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปี 61-62 อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเข้าประมูลงานโครงการใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 15-20 โครงการ มูลค่ารวมราว 400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงาน 70% ของงานทั้งหมด
บริษัทมีแผนเข้าประมูลโครงการออกแบบ-ติดตั้งระบบดับเพลิง และนำเสนอผลิตภัณฑ์กับกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มเติมอีก 10-12 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยทราบผลภายในไตรมาส 1/61 นี้
"มั่นใจว่าบริษัทจะประมูลงานได้สำเร็จตามเป้าหมายและเริ่มดำเนินงาน-รับรู้รายได้ในช่วงต้นปี 61 โดยเบื้องต้นได้รับงานแล้วราว 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนรอการเซ็นสัญญา"
ขณะเดียวกันคาดว่าในปี 61 ตลาดอุปกรณ์และระบบดับเพลิงจะมีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการลงทุนภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ อาทิ นิคมอุตสาหกรรม ภาคการผลิต ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีแนวโน้มกำหนดมาตรฐานของระบบดับเพลิงให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ในปี 61 บริษัทมีแผนจะขยายการทำธุรกิจสู่ผู้ประกอบการและผู้รับเหมาญี่ปุ่นที่เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับกลุ่มผู้รับเหมาญี่ปุ่นเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งระบบดับเพลิง เช่น บริษัท ไทยทาเคนาคา เป็นต้น
นายทักษิณ กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาส 4/60 มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 20% ในปีนี้ หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 13% ทั้งในปี 60 และ 61
"ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทยังคงรับรู้รายได้จากงานคอนโดมิเนียมที่ทยอยเร่งส่งมอบงานภายในปีนี้ สำหรับโครงการใหญ่ที่มีความล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท ทำให้มีโอกาสเข้ารับงานอย่างต่อเนื่องในปี 61 อย่างไรก็ตามความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมี Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 380 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทำให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 61-62"นายทักษิณ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากงานโครงการราว 30-31% และจากธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงราว 69%