ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,698.58 จุด ลดลง 6.75 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 25,627.19 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,708.42 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,695.77 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวลงจนหลุด 1,700 จุด เป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ อย่างไรก็ตามเช้านี้ตลาดฯยังมีข่าวดีเข้ามาจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนงวดเดือนพ.ย.ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด
ทั้งนี้ เช้านี้หุ้นที่กดดันตลาดฯมาจากหุ้นในกลุ่มขนส่ง นำโดยหุ้น AOT หลังจากที่ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย และหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันเริ่มย่อตัว จากการ Sell on fact ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเริ่มขึ้นในวันนี้
พร้อมให้ติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนต.ค.ในช่วงบ่ายนี้ โดยให้ติดตามการบริโภค และการลงทุนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกในวันนี้ด้วย ถ้ามีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ก็ไม่ได้สร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ แต่ถ้ามีการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก ก็จะมี upside ให้กับตลาดฯ
อีกทั้งให้ติดตามแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ทางวุฒิสภาจะลงโหวตเสียง โดยบ้านเราจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้เช้า โดยถ้าไม่ผ่านก็เป็นลบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ถ้าผ่าน ก็ต้องดูต่อไปอีกว่าร่างที่ผ่านมติวุฒิสภา กับร่างที่ผ่านมติสภาผู้แทนราษฏร จะรวมร่างกันเป็นอันเดียวจะใช้เวลานานแค่ไหน โดยถ้ายังอยู่ในระหว่างรอรวมร่าง 2 ฉบับก็ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯคงจะยังอ่อนค่าอยู่ จากที่ Flow ยังไม่ไหลกลับ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,690 จุด ส่วนแนวต้าน 1,710 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,118.82 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,720.21 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 951.96 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 821.64 ล้านบาท ปิดที่ 23.90 บาท ลดลง 0.40 บาท
UV มูลค่าการซื้อขาย 808.18 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท