นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันนี้ (30 พ.ย.) อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท หรือ ALT-W1 ในจำนวนไม่เกิน 250 ล้านหน่วย จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราการจัดสรรที่ 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิ ALT-W1
ทั้งนี้ ALT-W1 จะมีอายุ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยอัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) 1:1 และราคาการใช้สิทธิซื้อหุ้นอยู่ที่ 3.00 บาท ต่อหุ้น ทั้งนี้ ได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับการจัดสรร ALT-W1 (XW) เป็นวันที่ 12 ธ.ค.60 และ วันที่ 14 ธ.ค.60 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรร ALT-W1 (Record Date)
“นักลงทุนที่สนใจอยากได้รับการจัดสรร ALT-W1 จะต้องมีหุ้นของ ALT ไว้ครอบครองภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2560 นี้" นางปรีญาภรณ์ กล่าว
นางปรีญาภรณ์ กล่าวอีกว่า ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากจำนวน 500 ล้านบาท เป็น 625 ล้านบาท โดยการออกหุ้นจำนวน 250 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในอนาคต
“การเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยให้ ALT มีเงินทุนสำหรับลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในอนาคต อีกทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่อง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ สร้างโอกาสการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว"นางปรีญาภรณ์ กล่าว
นางปรีญาภรณ์ กล่าวว่า ทิศทางอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศจะเติบโตไปในแนวทางของ Smart City ตามนโยบาย Smart City และThailand 4.0 ของประเทศไทย บริษัทจึงวางแผนกลยุทธ์โดยเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่มีลักษณะเป็นสัญญาให้บริการระยะยาว เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ไม่ว่าจะเป็น การขยายขอบเขตการลงทุนที่ได้ริเริ่มดำเนินการโครงการไปแล้ว และมีการตอบรับที่ดีไปบนพื้นที่ใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น โครงการย้ายสายสื่อสารลงใต้ดินบนถนนสายหลักของกรุงเทพมหานครและหัวเมืองสำคัญในต่างจังหวัด โครงการพัฒนาโครงข่ายสายสื่อสารในนิคมอุตสาหกรรมตามแนวคิด Smart City รวมถึงการลงทุนในลักษณะที่เป็นการต่อยอดธุรกิจ คือสร้างบริการใหม่ ๆ บนโครงข่ายที่มีอยู่เดิมของบริษัท ภายใต้กรอบนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล เป็นต้น ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของธุรกิจและผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้