บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) มั่นใจว่าผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนลุยตลาดด้านงานรับจ้างผลิต (OEM) และการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อรุกตลาดทั่วประเทศให้มากขึ้น โดยยอดขายในช่วงที่ผ่านมาเริ่มปรับตัวดีขึ้น นอกเหนือจากการที่ได้รับงาน OEM เครื่องกรองน้ำเพิ่มอีก 2 ราย แม้ว่าในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา รายได้ลดลง 122.25 ล้านบาท หรือ 8.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รับผลกระทบจากยอดขายเครื่องกรองน้ำลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 59 รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาเครดิตลูกค้าที่เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้คาดว่ารายได้ในปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะโต 10% โดยคาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจและภาวะน้ำท่วมในภาคใต้และอีสานซึ่งเป็นลูกค้าหลัก
"ไตรมาส 4 เราเริ่มกลับมา หมดหน้าฝนแล้ว ทั้งปีรายได้ไม่เข้าเป้า แต่กำไรน่าจะทำได้ตามเป้า ปี 61 มีโอกาสเยอะ โดยเมื่อกลางปีนี้เราดีลพาร์ทเนอร์เพิ่มมา 2 ราย เราได้เครือข่ายเพิ่ม เป็นหัวใจสำคัญ" นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSR กล่าว
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดว่าเพิ่มขึ้นมาที่ 5% จากปีก่อนอยู่ที่ระกับ 4.3% เนื่องจากปรับลดหนี้สูญจากการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นและแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ผ่านการเร่งรัดติดตามหนี้สินได้ผลเกินคาด ส่งผลให้แนวโน้ม NPL ปรับลดต่อเนื่อง โดยเฉพาะหนี้ในต่างจังหวัด โดย ณ สิ้นก.ย.60 ยอดสำรองหนี้สูญลดลงเหลือ 50 ล้านบาท จากสิ้นปี 59 ตั้งสำรองหนี้สูญไว้ที่ 98 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทได้นำระบบ Mobile Application มาใช้ในการขายและการเก็บเงินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการขายและการเก็บเงินได้มากขึ้น
นายเอกรัตน์ กล่าวถึงงานรับจ้างผลิต (OEM) เครื่องกรองน้ำอีก 2 ราย ได้แก่ PSI ซึ่งมีดีลเลอร์อยู่ทั่วประเทศราว 5 พันกว่าคน มีเครือข่ายเข้าถึงทุกอำเภอ และมีฐานลูกค้าเก่าจำนวนมาก โดยจะออกสินค้าในชื่อ PSI by SAFE และอีกรายคือ ADWELL เป็นบริษัทขายตรง ใช้แบรนด์ ADWELL ทั้งนี้ การได้ OEM 2 รายจะช่วยทำให้รายได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเดิมที่มีเพียงกิฟฟารีน เพราะเท่ากับบริษัทเพิ่มตัวแทนขายอีกกว่า 5 พันคน จากปัจจุบันที่มีพนักงงานขาย 500 กว่าราย
สำหรับ ในปี 61 TSR จะรุกตลาดในเมียนมาและเวียดนาม โดยในช่วงต้นจะหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัท และคาดว่าจะได้ความชัดเจนในไตรมาส 2/61 และหลังจากนั้นจึงจะเข้าไปหาพันธมิตรในเวียดนาม จากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปทำตลาดในลาวและกัมพูชาแล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 61 กลับมาที่ 2 พันล้านบาทหรือมากกว่า 2 พันล้านบาท จากปัจจัยความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกรองน้ำยังมีอีกมาก ขณะที่มั่นใจว่าปี 61 จะลดหนี้เสียลงไปได้มาก ขณะที่เตรียมเข้าเจาะกลุ่มโรงพยาบาล โดยได้ส่งหนังสือกับกลุ่มโรงพยาบาลแล้ว คาดว่าจะรู้ผลชัดเจนในปีหน้า