นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 60 จะเติบโตราว 11-12% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยของทุกปี อีกทั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นที่จะช่วยหนุนรายได้ในขยายตัวได้ด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของกำไรปีนี้อาจจะลดลงจากปีก่อน แม้ว่าจะมีการบริหารพอร์ต และลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีเรือขนส่งและที่พักอาศัยสำหรับพนักงานประจำแท่นขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลียม (AWB) ที่หมดสัญญาเมื่อช่วงที่ผ่านมา และมีค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เรือบางประเภทก็ประสบกับปัญหาการแข่งขันสูง และความผันผวนจากต้นทุนพลังงาน บริษัทจึงได้เปลี่ยนมาทำสัญญาแบบ Time Charter ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา อีกทั้งอัตราการใช้เรือก็ลดลง 13%
อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้และกำไรปี 61 จะเติบโตจากปีนี้ เนื่องจากบริษัทได้เพิ่มจำนวนกองเรือมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนกองเรือราว 36 ลำ จากปี 60 ที่คาดว่าจะมีราว 26 ลำ โดยจะส่งมอบเรือ"ศรีกาญจนดิษฐ์" มีขนาดราว 3,000 เดทเวทตัน จากประเทศจีน ในวันที่ 25 ธ.ค. นี้ และในเร็ว ๆ นี้จะซื้อเรือ chemical เพิ่ม ขนาด 3,000 เดทเวทตัน คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ภายในต้นปี 61 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจเรือ
ขณะเดียวกันบริษัทตั้งงบลงทุนราว 7 พันล้านบาท สำหรับการซื้อเรือเพิ่ม 10 ลำ โดยจะใช้เงินที่ได้มาจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) และจากกระแสเงินสดราว 2.5-2.7 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.8 เท่า และตั้งเป้าจะรักษาระดับให้ไม่เกิน 1.5 เท่า