ESSO คาดปี 61 ยอดขายน้ำมันกลับมาโตเท่ากับหรือดีกว่าตลาด ดันขึ้นมาร์เก็ตแชร์อันดับ 3 หลังได้"เพียว"เป็นดีลเล่อร์ใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 6, 2017 10:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันค้าปลีกในปี 61 จะกลับมาเติบโตเท่ากับหรือดีกว่าอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะขยายตัวราว 4% หลังจากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาการเติบโตต่ำกว่าอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายเครือข่ายล่าช้า แต่ล่าสุดการได้สถานีบริการน้ำมัน"เพียว"มาเป็นดีลเล่อร์รายใหญ่ก็จะช่วยผลักดันให้การขยายสถานีบริการน้ำมันเป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเป็น 600 แห่งในปี 61 พร้อมกับการปรับโฉมใหม่สถานีบริการน้ำมัน และการขยายฐานบัตร"เอสโซ่ สไมล์ส"ก็จะช่วยหนุนให้ส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกขึ้นมาเป็นอันดับ 3

นายยอดพงศ์ สุตธรรม ผู้จัดการการตลาดขายปลีก การตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง ของ ESSO กล่าวว่า การที่บริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด (PTEC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.อาร์พีซีจี (RPC) ที่ประกอบธุรกิจการค้าปลีกและสถานีบริการน้ำมัน ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เพียว" ที่มีอยู่ 49 แห่ง มาเป็นดีลเล่อร์รายใหม่ของเอสโซ่ ก็จะช่วยทำให้การขยายสถานีบริการน้ำมันได้ตามเป้าหมาย และผลักดันปริมาณขายน้ำมันค้าปลีกของเอสโซ่ให้เพิ่มขึ้น

“ที่ผ่านมาการขยายเครือข่ายของเราช้ากว่าอุตสาหกรรม ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นทุกปี เรายังโตอยู่ แต่เราโตช้ากว่าอุตสาหกรรม ความคาดหวังของเราในปีหน้าเราจะโตได้ไม่น้อยกว่าอุตสาหกรรม เพื่อจะ maintain market share หรือ growth market share ซึ่งส่วนใหญ่ธุรกิจน้ำมันจะเติบโตเทียบเท่ากับจีดีพี…ปีหน้าก็คาดว่าจะโตตามจีดีพี หวังว่าอุตสาหกรรมจะโต 4% เราก็อยากจะโตได้เท่ากับหรือดีกว่า เราก็อยากกลับมามี market share อันดับ 3"นายยอดพงศ์ กล่าว

นายยอดพงศ์ กล่าวว่า ตลาดค้าปลีกน้ำมันในปีนี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่จะขยายตัวตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากในช่วง 2 ปีก่อนที่ตลาดค้าปลีกน้ำมันเติบโตกว่า 10% สูงกว่าจีดีพี ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทำให้ผู้บริโภคที่เคยใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หันมาใช้น้ำมันเบนซินมากขึ้น

ปัจจุบันเอสโซ่มีส่วนแบ่งตลาดขายปลีกน้ำมันอยู่ที่ 12.5% เป็นอันดับ 4 ของตลาด รองจากบมจ.ปตท. (PTT),บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด

ด้านนายมาโนช มั่นจิตจันทรา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง ของ ESSO กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของเอสโซ่ในปี 61 จะเติบโตก้าวกระโดด ตามแผนธุรกิจหลักทั้งในส่วนของการขยายเครือข่าย และการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์

โดยในส่วนของการขยายเครือข่ายนั้นบริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันเป็น 600 แห่งในปลายปี 61 จากราว 550 แห่งในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 545 แห่ง โดยส่วนนี้เป็นของดีลเล่อร์ ราว 40% ส่วนอีก 60% เป็นของเอสโซ่ ซึ่งการขยายเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากการได้"เพียว"เข้ามาเป็นดีลเล่อร์รายใหม่ ที่จะเปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันของ"เพียว" ที่มีอยู่ทั้งหมด 49 แห่ง มาเป็น"เอสโซ่"คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปลายปี 61 รวมถึงยังมองโอกาสที่ดีลเล่อร์ของ"เพียว"ทีมีอีกกว่า 10 แห่ง จะหันมาเปลี่ยนเป็นแบรนด์"เอสโซ่"ในอนาคตเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ยังเจรจากับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีสถานีบริการ LPG อย่างเดียว หันมาเพิ่มสถานีบริการน้ำมันในสถานีบริการ LPG เพิ่มเติมด้วย ซึ่งก็จะทำให้การขยายสถานีบริการน้ำมันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและทำได้ตามเป้าหมาย

สำหรับการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบด้วย 3S ได้แก่ Supreme Plus ซึ่งจะเป็นแบรนด์น้ำมันเกรดพรีเมียม ที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภท คือ ดีเซล และแก๊สโซฮอล์ 95 โดยวางเป้าหมายที่จะขยายสถานีบริการเพื่อจำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมียมให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันดีเซลพรีเมียม มีจำหน่ายราว 330 แห่ง และแก๊สโซฮอล์ 95 มีอยู่ 135 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มเป็น 150 แห่งในสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นการขยายน้ำมันเกรดพรีเมียมก็จะเป็นการขยายตามสถานีบริการใหม่ที่จะเกิดขึ้น

Smiles ซึ่งเป็นบัตรสะสมคะแนน "เอสโซ่ สไมล์ส" วางเป้าหมายที่จะมีฐานสมาชิกบัตรเพิ่มเป็น 1.5 ล้านใบภายในกลางปี 61 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1.2 ล้านใบ พร้อมกับจะหาความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีความร่วมมือกับ เทสโก้ โลตัส และแอร์เอเชีย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย

Synergy Image ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนรูปโฉมของสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของสถานีบริการน้ำมันเอ็กซอนทั่วโลก ที่จะมีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งประเทศในเอเชียทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง ก็ได้ปรับเปลี่ยนไปแล้ว โดยในส่วนของประเทศไทยจะเริ่มต้นทดลองเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ในช่วงไตรมาส 2/61 โดยมีเป้าหมาย 5 แห่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1 ล้านบาท/แห่ง ซี่งการปรับเปลี่ยนรูปโฉมดังกล่าวไม่เพียงแต่การปรับเปลี่ยนภายนอกเท่านั้น แต่จะครอบคลุมถึงการให้บริการด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเอสโซ่ มีการปรับเปลี่ยนถังน้ำมันใต้ดิน ให้ได้ตามมาตรฐานเอ็กซอน โดยเป็นถังน้ำมันสองชั้น ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว 60 แห่ง และจะปรับเปลี่ยนอีก 20 แห่งในปีหน้า โดยเอสโซ่มีเป้าหมายใช้เงินลงทุนในปีหน้ากว่า 1 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสถานีบริการน้ำมัน การสร้างถังใต้ดิน ตลอดจนการปรับเปลี่ยนโฉมสถานีบริการใหม่ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ