กลุ่มรับเหมาฯติดลบยกแผง กังวลงานประมูลใหม่ล่าช้าหลังต้องปรับ TOR ให้สอดคล้องพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ.2560

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 7, 2017 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างราคาไหลลงทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 10.45 น. หุ้น UNIQ ลบ 4.14% มาอยู่ที่ 16.20 บาท ลดลง 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 243.26 ล้านบาท

หุ้น CK ลบ 2.83% มาอยู่ที่ 25.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 147.05 ล้านบาท

หุ้น STEC ลบ 1.64% มาอยู่ที่ 24 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 340.01 ล้านบาท

หุ้น ITD ลบ 1.00% มาอยู่ที่ 3.96 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 25.50 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า การปรับลดลงของกลุ่มรับเหมาฯในเช้าวันนี้จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมเพิ่ม โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กลุ่มรับเหมายังไม่สามารถไปไหนได้ไกลคือการประมูลงานใหม่ที่ล่าช้า ซึ่งจะเห็นได้จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ไปเพียง 4 แสนล้านบาท ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับ Action Plan ทั้งหมด

นอกจากนั้นตลาดยังมีความกังวลการประมูลโครงการใหม่ ๆ นับจากนี้จะล่าช้าออกไปอีกจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 23 ส.ค.60 จากเดิมให้อำนาจแต่ละหน่วยงานไปดำเนินการเอง เปลี่ยนเป็นรวมศูนย์ให้อยู่ใต้การพิจารณาของคณะกรรมที่ประกอบไปด้วยหน่วยงานราชการและเอกชน ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับ TOR ให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยคาดว่ารัฐบาลได้เล็งเห็นถึงปัญหาการประมูลล่าช้ามาพอสมควรแล้ว น่าจะมีความพยายามในการแก้ปัญหาและเร่งผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาก่อนจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะ Action Plan ที่กระทรวงคมนาคมจัดทำขึ้นจะมีอีก 51 โครงการรวม 2.39 ล้านล้านบาท (แบ่งเป็นวงเงินจาก Action Plan ปี 2561 ที่ 1.27 ล้านล้านบาท และ 2560 อีก 1.02 ล้านล้านบาท)

การปรับลดลงของกลุ่มรับเหมาฯจากปัจจัยกดดันข้างต้น จึงยังคงมองเป็นโอกาสในการเข้าเก็บสะสม เพราะคาดว่าสถานการณ์การประมูลจะดีขึ้นตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป และในระหว่างที่รอการประมูลโครงการใหม่ ๆ นั้น บรรดากลุ่มรับเหมาฯขนาดใหญ่ก็มี Backlog ที่มากเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไปอย่างน้อยอีก 2 ปี

โดยยังคงเลือก บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และบมจ. ช.การช่าง(CK) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มรับเหมาฯ โดย STEC แนะนำให้เข้าสะสมเพิ่มเมื่อราคาลงมาที่บริเวณ 23.80 บาท จะมี Upside จากราคาเป้าหมาย 30.50 บาท กว่า 28% โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2561-62 จะเติบโตขึ้น 47.2% and 28.3% มาอยู่ที่ 1.4 และ 1.8 พันล้านบาท ตามลำดับด้วยปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ 4 สาย, รถไฟทางคู่ 3 สาย, รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูและการเดินสายไฟฟ้าลงดิน โดยยอด backlog กำลังทำสถิติใหม่ที่ 1.14 แสนล้านบาท รองรับรายได้ไปได้ถึงปี 2563

CK แนะนำให้เข้าสะสมเพิ่มเมื่อราคาลงมาที่บริเวณ 25 บาท มี Upside 44% จากราคาเป้าหมาย 36 บาท คาดกำไรในปี 2561-62 ไว้ที่ 1.8 และ 2.1 พันล้านบาทตามลำดับ โดย Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 7.86 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2561 CK จะมีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่อย่างน้อยอีก 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอด Backlog พุ่งเกิน 1.3 แสนล้านบาท เพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไปอีกอย่างน้อย 3 ปี

UNIQ แนะนำให้รอซื้อเมื่อลงมาที่ 16.40 บาท ด้วยผลงานที่ผ่านมาของบริษัทและศักยภาพในการก่อสร้างที่ถูกจัดให้ติด 1 ใน 4 ของผู้รับเหมาฯรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จะทำให้ UNIQ ได้ส่วนแบ่งงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ ได้ไม่ยาก จุดเด่นของ UNIQ อยู่ที่ประสิทธิภาพการทำกำไรที่สูงที่สุด และ Valuation จาก Consensus ค่า Forward PER อยู่ที่ 17.6 เท่า ยังถือว่าถูกที่สุดในบรรดาบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ด้วยกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ