ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,699.09 จุด เพิ่มขึ้น 4.70 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 21,854.48 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,700.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,690.44 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เงียบมาก ดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งหุ้นที่เทรดกันส่วนใหญ่ก็เป็นหุ้น IPO ทั้งนั้น ขณะที่ตลาดฯก็ไม่มีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนด้วย ขณะนี้ตลาดฯก็ได้แต่โฟกัสไปที่ปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งเรื่องการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดก็คาดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ติดตามความคืบหน้าร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ทางสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จะต้องมาพูดคุยกัน อีกเรื่องก็เป็นเรื่องของงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นเส้นตายมิฉะนั้นบางหน่วยงานรัฐฯของสหรัฐฯจะต้องถูกปิด
สำหรับบ้านเราจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติได้ขายไปมากแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งก็มีการปิด Position ไปกันแล้ว ดังนั้นเดือนนี้จึงไม่ค่อยได้มีธุรกรรมเท่าไร ตลาดฯก็มีเพียงเม็ดเงินจากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาช่วยประคองตลาดฯไว้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีแนวรับ 1,688 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
THG มูลค่าการซื้อขาย 1,457.98 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,037.99 ล้านบาท ปิดที่ 53.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 787.71 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 744.28 ล้านบาท ปิดที่ 482.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 607.36 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท