บลจ.วรรณ ออกกองทริกเกอร์ฟันด์ เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic Play เสนอขาย 8-18 ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 12, 2017 15:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขาย"กองทุนเปิด วรรณ ท็อป ซีเล็คชั่น 5M (ONE-TOP5M) เป็นกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ ในระหว่างวันที่ 8-18 ธ.ค.61 โดยปรับสัดส่วนระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดีได้ 0-100% ไม่กำหนดอายุโครงการ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนในการกระจายการลงทุนในหุ้น เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นในโอกาสการลงทุนของตลาดหุ้นปีหน้า และยังคงมุมมองเชิงบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังแนะนำทยอยเข้าลงทุนโดยเลือกหุ้นที่มีปัจัยพื้นฐานเฉพาะตัว

“กองทุน ONE-TOP5M ตั้งเป้าหมายเลิกกองทุนภายใน 5 เดือน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.53 บาทต่อหน่วย ซึ่งมูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่า 10.50 บาท และ บริษัทจัดการสามารถรวบรวมเงินสดหรือตราสารสภาพคล่องได้เพียงพอ เพื่อรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ไปยังกองทุนเปิดวรรณ เดลี่ ซึ่งเป็นกองทุนตลาดเงินเมื่อกองทุนสามารถเลิกกองทุนนี้ได้ตามเป้าหมาย" นายพจน์ กล่าว

ลักษณะเด่นของกองทุน ONE-TOP5M จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มอุปโภคบริโภค, กลุ่มสื่อสารและสิ่งพิมพ์ โดยมีกลยุทธ์เลือกเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัว (Thematic stock) ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของการบริโภค การลงทุนตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเลือกตั้งในปี 61 และการลงทุนภาครัฐและโครงสร้างพื้นฐาน

นายพจน์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 61 มีโอกาสแตะระดับ 1,884 จุด จากปัจจัยหลักในแง่ของปัจจัยพื้นฐานการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศที่ผ่านการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากภาครัฐยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านนโยบายภาคการลงทุนต่างๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง EEC ที่มีขนาดเม็ดเงินโครงการกว่า 750,000 บาท ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในปีหน้า

นอกจากนี้ กรอบเวลาการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. 61 เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันตลาดหากสามารถดำเนินได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปีหน้าคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับมากกว่า 50 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลและเอื้อให้ตลาดทรงตัวอยู่ได้

“Downside Risk ของตลาด ปรับตัวลงค่อนข้างจำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย Sector ที่มีความน่าสนใจในปีหน้า อาทิ หุ้นในกลุ่มธนาคาร ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการเบิกจ่ายเงินลงทุนของภาครัฐและภาคการส่งออก ทั้งนี้ คาดการณ์อัตราการเติบโตของสินเชื่อขยายตัวในปีหน้า 5.7% จากปีนี้ 4.5% ขณะที่ ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีหน้าคาดว่าจะลดลงและการขยายตัวของเศรษฐกิจและการปล่อยสินเชื่อจะทำให้กำไรของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มดีขึ้น

หุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งจะเติบโตขึ้นตามการบริโภคที่ฟื้นตัว รวมถึง หุ้นในกลุ่มสื่อโฆษณา โดยในไตรมาส 4/17 นี้ จากการสำรวจของ Neilson คาดว่า ค่าใช้จ่ายค่าโฆษณาจะฟื้นตัวราว 12 -14% และจะฟื้นตัวต่อเนื่องอีกประมาณ 5 -10% รวมถึง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย EEC ที่จะทำให้มีเม็ดเงินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน 3 จังหวัด ที่เอื้อต่อการลงทุน การจ้างงานและการบริโภค" นายพจน์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ