นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หรือ ซีพีเอฟ คาดรายได้ปี 60 โต 10% ตามเป้าหมายมียอดขายประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของกิจการในต่างประเทศ มุ่งพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สู่เป้าหมาย “ครัวของโลก" ขึ้นแท่นบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก
ซีพีเอฟเดินหน้าตามกลยุทธ์สร้างการเติบโต ด้วยการเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรครบวงจรที่เน้นในเรื่องคุณภาพและสุขอนามัยของสินค้าอย่างครบวงจร ตามมาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในตราสินค้าให้กับผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมเร่งการเติบโตและการลงทุนในต่างประเทศให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ดังจะเห็นได้จากการที่ซีพีเอฟได้เข้าไปลงทุนใน 16 ประเทศทั่วโลกแล้ว ประกอบด้วย เวียดนาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน จีน อินเดีย ศรีลังกา รัสเซีย ตุรกี โปแลนด์ เยอรมัน เบลเยี่ยม อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา โดยในปีนี้บริษัทเข้าลงทุนเพิ่มในประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่ 17 จากการซื้อกิจการของ Peter Paulsen
"คาดว่าปี 60 บริษัทจะยอดขายประมาณ 5 แสนล้านบาท เติบโตร้อยละ 10 และยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูง ปลอดภัย ป้อนประชากรกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลก"นายสุขสันต์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มจากเกษตรอุตสาหกรรมสู่อาหารที่มีนวัตกรรม ขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตจากกิจการที่ไปลงทุนในแต่ละประเทศมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัยทางอาหาร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสังคม
“UN FAO จัดอันดับให้เครือซีพีเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ชั้นนำ สุกร ไก่ และกุ้ง ด้วยมาตรฐานสากลและดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล" นายสุขสันต์ กล่าว