นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เทคโนเมดิคัล (TM) คาดว่ายอดขายในปี 61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีนี้ จากความต้องการใช้อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น เสื้อกราวน์สำหรับผ่าตัด ถุงมือ ถุงดูดสารคัดหลั่ง เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะพยายามทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 2 หลัก จากปีนี้คาดจะรักษาไว้ที่ 5% โดยจะมีการลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังมีแผนนำเข้าเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เข้ามาเพื่อจำหน่าย มองว่ามีความต้องการสูง ทั้งนี้บริษัทฯจะคงสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 60% และจากภาคเอกชน 40%
โดยบริษัทฯคาดว่ายอดขายในปี 60 จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 630 ล้านบาท แต่กำไรจะลดลงเล็กน้อย จากความต้องการเครื่องผ่าตัดหัวใจมีมากขึ้นในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทำให้ยอดขายเติบโตได้ดี ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อรอส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้อีก 25 ล้านบาท แต่ทั้งนี้เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง เพราะต้องมีการฝึกอบรมในศูนย์ฝึกฯ และสินค้ายังมีมาจิ้นไม่ดีนัก ปัจจุบันบริษัทฯมีการต่อรองกับผู้ผลิตต่างประเทศเพื่อลดต้นทุนในการนำเข้ามาจำหน่าย ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาสที่ 4/60 จะทำได้ดีที่สุดในรอบปี เนื่องจากเดือนพ.ย.ทำรายได้ไปแล้วกว่า 75 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนลงทุนโชว์รูมโดยในพื้นที่บางส่วนจากทั้งหมด 2,000 ตารางเมตร บริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ โดยใช้งบลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท เบื้องต้นจะเริ่มขาย เตียงสำหรับผู้สูงอายุ เก้าอี้สำหรับผู้สูงอายุ คาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ภายในกลางปีหน้า และมีแผนจะเปิดเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุต่อไปในปี 62-63
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการจะมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามฤดูกาลขาย หรือช่วงไฮซีซั่น โดยล่าสุดบริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อเครื่องปอดและหัวใจเทียม (Heart Lung Machine) มูลค่า 25 ล้านบาทซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามาภายในปีนี้
นางสุนทรี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถนำเสนอสินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการขยายตลาดในประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ให้เพิ่มสูงขึ้น และขยายช่องทางการตลาดออนไลน์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นปัจจุบันบริษัทฯมีฐานลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาลรัฐบาลกว่า 500 ราย ทั่วประเทศ และโรงพยาบาลเอกชนกว่า 200 ราย รวมถึงคลินิก หรือสถาบันการแพทย์อื่น ๆ ซึ่งมีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯโดยตรงอีกกว่า 100 รายทั่วประเทศและที่สำคัญบริษัทฯอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานและโชว์รูมแสดงสินค้าบนที่ดินของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2561
“ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ผลประกอบการของเราคาดว่าจะฟื้นตัวจากไตรมาสที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงของไฮซีซั่น รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของทางภาครัฐ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้รวมถึงการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าและขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ ในขณะเดียวกันสำนักงาน และโชว์รูมแห่งใหม่ก็เดินหน้าก่อสร้างได้ตามแผน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ และเพิ่มขีดความสามารถในการบริการให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี" นางสุนทรี กล่าว