นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TREIT (TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.อนุมัติการควบรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 3 กองทุน ไปยังกอง TREIT ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการควบรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกอง REIT ที่ใหญ่ที่สุด ส่งผลให้ TREIT ภายหลังการควบรวมนี้ เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ทั้งนี้ ในการอนุมัติการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ TREIT ด้วยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ออกใหม่ให้แก่กองทุนรวม เพื่อรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวมนั้น จะมีจำนวนประมาณไม่เกิน 2,035,587,048 หน่วย พร้อมเงินสด 3,740 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นกองทรัสต์กองเดียวในประเทศไทยที่สามารถทำการควบรวมกองอสังหาฯ 3 กองมารวมเป็นหนึ่งเดียว
บลจ.บัวหลวง เป็นผู้บริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ (TLOGIS) และ บลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้บริหาร กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท(TGROWTH) จะดำเนินการเพิกถอน 3 กองอสังหาฯ ของกลุ่มไทคอน ได้แก่ กองทุนรวม TFUND, TLOGIS และ TGROWTH เพื่อรวมไปยัง TREIT อย่างเป็นทางการ
พร้อมทั้งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมกับหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ TREIT (Book Closing for Swap) ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2560 และกำหนดวันได้รับเงินสดในรูปของเงินปันผล และ/หรือ ส่วนลดทุน ณ วันที่ 3 มกราคม 2561 สำหรับผู้ถือหน่วย TFUND และ TLOGIS และ 4 มกราคม 2561 สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน TGROWTH
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดพักการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ถึง 27 ธันวาคม 2560 เพื่อประกาศเพิกถอนหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และรับหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ TREIT ที่ออกใหม่เพื่อรองรับการแปลงสภาพเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในชื่อ “TREIT" ในตลาด หลักทรัพย์ฯ ต่อไป โดยกองทรัสต์ TREIT จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 นี้
นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทจัดการจะเลิกกองทุนรวมหลังจากวันที่มีการโอนทรัพย์สินและภาระของกองทุนรวมทั้งหมดให้แก่กองทรัสต์ TREIT เป็นที่เรียบร้อยภายในสิ้นปี 60 จากนั้นในปี 61 TREIT มีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมของกลุ่มบริษัทไทคอนภายหลังการแปลงสภาพกองทุนรวมเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท ด้วยวิธีการกู้เงินเพื่อมาซื้อทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการที่มีขนาดของกองทรัสต์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นแทนการเพิ่มทุน โดยภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมแล้ว จะทำให้กองทรัสต์ TREIT มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 36,000 ล้านบาท
“กองทรัสต์ TREIT จะมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้า กระจายอยู่ใน 22 ทำเลที่ตั้ง ครอบคลุมทั้งสิ้น 7 จังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย โดยปัจจุบัน มีทรัพย์สินตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC และบริเวณโดยรอบกว่า 1.09 ล้านตารางเมตร และได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติในการเข้ามาลงทุนในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง" นายพีระพัฒน์ กล่าว