นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการเพิ่มทุนในปี 61 เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปของแนวทางในช่วงไตรมาส 1/61 พร้อมทั้งคาดว่าการปล่อยสินเชื่อใหม่จะสูงขึ้นมากกว่าปีนี้ที่คาดว่าปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ราว 1 พันล้านบาท
ในปี 61 บริษัทคาดว่าความต้องการสินเชื่อยังคงมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรเกษตรกรรม หลังปัญหาภัยแล้งได้คลี่คลายลงไปตั้งแต่ปีนี้ จากที่ประสบปัญหาภัยแล้งมาติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 ปี (ปี 58-59) ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรเริ่มกลับมาทำการเกษตรและมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสินเชื่อมาซื้อเครื่องจักรการเกษตรมากขึ้น รวมไปถึงการได้พันธมิตรรถแทร็คเตอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ New Holland ทำให้บริษัทมีช่องทางการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น
อีกทั้งบริษัทยังมีการเจาะกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มของธุรกิจท่องเที่ยวเข้ามาเสริม โดยเริ่มจาก“สบายใจอันดามัน"ที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องยนต์เรือนำเที่ยว ซึ่งได้เริ่มนำร่องปล่อยสินเชื่อไปแล้วให้กับลูกค้าใน จ.ภูเก็ต บริษัทได้เล็งเห็นถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของภาคใต้ในไทยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นโอกาสที่บริษัทเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว และเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ให้อัตราผลตอบแทนที่สูงเฉลี่ย 16-17% และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่เข้ามาแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ผ่านช่องทางการให้สินเชื่อกับแม่ค้าที่เช่าแผงในตลาดสดที่เป็นพันธมิตร 4 แห่ง และในปี 61 บริษัทเตรียมเพิ่มพันธมิตรตลาดสดรายใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ พร้อมกับการหากลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อที่เป็นแบบซัพพลายเชนเพื่อต่อยอดและขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น
และในปี 61 บริษัทคาดว่าสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลจะเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% และสินเชื่อเช่าซื้อจะลดลงมาอยู่ที่ 50% จากปัจจุบันที่ 60%
บริษัทยังคงพยายามรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ในปี 61 ให้อยู่ในระดับตัวเลขสองหลัก จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 12-14% โดยการเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดีมาเสนอแก่ลูกค้าและทำให้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างเหมาะสม ขณะที่การบริหารคุณภาพหนี้ของบริษัทยังคงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่มีทีมติดตามหนี้ที่มีกระบวนการทำงานอย่างมืออาชีพ ส่งผลให้หนี้เสียของบริษัทอยูในระดับไม่สูง และการตั้งสำรองฯมีการตั้งสำรองฯที่เพียงพอและอยู่ในระดับที่สูง
บริษัทยังเตรียมผลักดันการออกโมบายล์แอพพลิเคชั่น เพื่อนำมาเพิ่มความสะดวกในการให้บริการชำระเงินกับลูกค้า พร้อมทั้งสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆให้กับลูกค้าเพิ่มเติมได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือน ม.ค.61 ขณะที่ด้านรายได้ของบริษัทคาดว่าจะยังเห็นการเติบโตที่โดดเด่นในปี 61 จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้เติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% เป็นผลมาจากการปรับกระบวนการทำงานที่หนุนให้มีการขยายสินเชื่อใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด