นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน EM (KFF6MEM) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.40% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค.60 และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี DW (KFF1YDW) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.75% ต่อปี เปิดขายระหว่างวันที่ 19-25 ธ.ค.60 โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี
ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MEM ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในบัตรเงินฝาก Qatar National Bank, สาขาลอนดอน, เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, เงินฝาก Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง และบัตรเงินฝาก ICBC Ltd., สาขาลักเซมเบิร์ก
ด้านกองทุน KFF1YDW ที่มีอายุโครงการ 1 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนใน เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์, บัตรเงินฝาก Bank of Communications , ประเทศจีน, บัตรเงินฝาก China Citic Bank , ประเทศจีน, บัตรเงินฝาก China Merchants Bank , ประเทศจีน และบัตรเงินฝาก Shanghai Pudong Development Bank, ประเทศจีน โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท
ด้านมุมมองการลงทุนในตราสารหนี้จีน นายนาวิน กล่าวว่า การลงทุนในตราสารหนี้จีนจะสามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทนของนักลงทุนได้ เนื่องจากตราสารหนี้จีนมีอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยในปี 61 เศรษฐกิจจีนจะสามารถเติบโตได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 6.8 โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกของจีนปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการของภาครัฐและมาตรการทางการเงินที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดความเสี่ยงในระบบการเงินอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนมีแผนการลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจจีน โดยปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีความพร้อมและศักยภาพในการเข้าไปลงทุนโดยตรงในตลาดตราสารหนี้จีน เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านได้รับใบอนุญาต RQFII จากทางการจีน ซึ่งใบอนุญาตดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักลงทุนประเภทสถาบันการเงินต่างชาติสามารถเข้าไปลงทุนโดยตรงในประเทศจีนโดยใช้สกุลเงินหยวน (Onshore RMB) โดยบลจ.กสิกรไทย ถือเป็นนักลงทุนสถาบันรายแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว และเป็นบลจ.แรกที่สามารถเข้าไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของประเทศจีนได้โดยตรง
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย